สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร
Department of Education
รักการอ่าน
โรงเรียนลำพะอง (ราษฎร์จำเริญบำรุง)
กระบวนการพัฒนา

๑. เกริ่นนำ

กระบวนการ/วิธีการดำเนินงานในอดีต

           ปลูกฝังการอ่านอย่างต่อเนื่อง สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเร้าความสนใจ ดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ปัญหาการอ่าน เริ่มจากง่ายไปหายาก เริ่มจากหนังสือที่ชอบหรือสนใจนำไปสู่ความแปลกใหม่ของการเรียนรู้

สภาพทั่วไป

            สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้กำหนดกลยุทธ์พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาเพื่อเร่งรัด ส่งเสริม และพัฒนาให้หน่วยงานในสังกัดนำนโยบายสู่การปฏิบัติ โดยมีกลยุทธ์และจุดเน้นที่สำคัญหลายๆด้าน รวมทั้งพัฒนาการอ่านการเขียน และการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทย ส่งเสริมให้นักเรียนช่วงชั้นที่ ๑ อ่านออกเขียนได้ ช่วงชั้นที่ ๒ เป็นต้นไป อ่านคล่องเขียนคล่อง ใช้ภาษาไทยอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการเรียนรู้สาระการเรียนรู้อื่น เพื่อการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น

          ด้วยโรงเรียน ได้เล็งเห็นความสำคัญของการอ่านและสอดคล้องกับนโยบายของกรุงเทพมหานคร จึงได้จัดกิจกรรมเพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาการอ่านของนักเรียน โดยกำหนดเป้าหมายให้นักเรียนที่อ่านหนังสือไม่ออกต้องเป็นศูนย์ จากการทดสอบประเมินสภาพการอ่านของนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ ของผู้บริหารและครูผู้สอนภาษาไทยในภาคเรียนที่ ๑/๒๕๖๓ ปรากฏว่ามีนักเรียนจำนวน ๙๙ คนยังอ่านหนังสือ
ไม่ออก ส่งผลทำให้การเรียนไม่ดี ต้องได้รับการพัฒนาอย่างเร่งด่วน

ลักษณะสำคัญของวิธีหรือแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศ

          ๑. ประชุมชี้แจงให้ครูและบุคลากรเข้าใจถึงความสำคัญของการอ่าน

๒. ดำเนินการด้วยวิธีที่หลากหลาย ทำให้นักเรียนรักการอ่าน โดยจัดนักเรียนที่อ่านไม่ออก
              อ่านไม่คล่อง โดยให้ครู ๑ คนดูแลนักเรียนซ่อมเสริมการอ่านจำนวน ๓
-๔ คน

๓. จัดโครงการและกิจกรรมที่ส่งเสริมและแก้ปัญหาเกี่ยวกับการอ่าน

วัตถุประสงค์ของวิธีหรือแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศ

          ๑.  เพื่อแก้ปัญหาการอ่านไม่คล่อง การอ่านไม่ออกของนักเรียน

          ๒.  เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ให้สูงขึ้น

          ๓.  เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการทดสอบเพื่อประเมินความสามารถการอ่านของผู้เรียน (RT)

          ๔.  เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการทดสอบความสามารถพื้นฐานของผู้เรียนระดับชาติ (NT)

          5.  เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เป้าหมาย

         ตัวชี้วัดเชิงปริมาณ นักเรียนโรงเรียนลำพะอง (ราษฎร์จำเริญบำรุง) ที่อ่านหนังสือไม่คล่อง อ่านหนังสือ
                                   ไม่ออกลดลง ร้อยละ ๙๐ ขึ้นไป
          ตัวชี้วัดเชิงคุณภาพ นักเรียนทุกคนอ่านหนังสือออก และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น

. ลำดับขั้นตอนการดำเนินกิจกรรมพัฒนา Flow Chart (แผนภูมิ) ของวิธีหรือแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศ

ขั้นที่ ๑ คัดกรองนักเรียน

ขั้นที่ ๒ ประชุมชี้แจงและมอบหมายให้ครูดูแลนักเรียนที่อ่านไม่ออก/อ่านไม่คล่องอย่างใกล้ชิด

ขั้นที่ ๓ ครูดำเนินการสอนอ่านนักเรียนตามที่ได้รับมอบหมาย

ขั้นที่ ๔ ติดตามและประเมินผลเป็นระยะ

ขั้นที่ ๕ จัดกิจกรรมเสริม และจัดทำสื่อ นวัตกรรมเสริมการเรียนรู้ที่หลากหลาย


ผลจากการปฏิบัติ

ผลการดำเนินการ

ระบุผลการดำเนินงานตามเป้าหมาย-ตัวชี้วัดที่กำหนดทั้งเชิงปริมาณ และ/หรือคุณภาพ

- นักเรียนมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จำนวนนักเรียนที่อ่านหนังสือไม่คล่อง อ่านหนังสือไม่ออกลดลง

ร้อยละ ๙๐.๖ ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนด และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น

เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนของ Best Practice แล้วส่งผลต่อโรงเรียนอย่างไร

                   ๑. นักเรียนได้รับรางวัลเกี่ยวกับภาษาไทย

                   ๒. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้สูงขึ้น

                   ๓. ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖
                        กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ปีการศึกษา ๒๕๖๓ มีพัฒนาการดีขึ้นและมีคะแนนเฉลี่ย
                        สูงกว่าระดับประเทศทุกปี

                   ๔. ผลการประเมินความสามารถทางการอ่านของผู้เรียน RT ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ 
                        ปีการศึกษา ๒๕๖๓ สูงกว่าระดับประเทศและสูงกว่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด

                   ๕. ผลการทดสอบความสามารถพื้นฐานของผู้เรียนระดับชาติ NT ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓
                        ปีการศึกษา ๒๕๖๓ สูงกว่าระดับประเทศและสูงกว่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด 

 


เอกสารเพิ่มเติม :[ดาวน์โหลดเอกสาร]