สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร
Department of Education
ชุดนิทานเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของโรงเรียนวัดลาดพร้าวโดยใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม
โรงเรียนวัดลาดพร้าว
กระบวนการพัฒนา

การดำเนินการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนด้วยชุดนิทานที่ใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม  มีขั้นตอนการดำเนินการดังนี้

        ขั้นที่ 1 ขั้นวิเคราะห์ (Analysis Phase)

           ทำการศึกษาสภาพปัญหา โดยการวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ (Need analysis) โดยประชุมครูผู้สอน บุคลากรทางการศึกษา ผู้บริหารของโรงเรียนเพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนการสอนของโรงเรียนวัดลาดพร้าว นิสัยและพฤติกรรม การใช้ชีวิตประจำวันและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องโดยขั้นตอนนี้ได้มีการสรุปปัญหาของผู้เรียนและพบพฤติกรรมที่ต้องแก้ไขอันดับแรก 4 ด้าน คือ

 

            1. ซื่อสัตย์สุจริต             

            2. มีวินัย

            3. อยู่อย่างพอเพียง

            4. มีจิตสาธารณะ

ขั้นที่ 2 การออกแบบ (Design Phase)

           ขั้นตอนการออกแบบประกอบด้วย การสร้างจุดประสงค์การเรียนรู้ การกำหนดเครื่องมือวัดประเมินผล แบบฝึกหัด เนื้อหาในนิทาน จัดทำนิทาน  วางแผนการสอน จากขั้นตอนนี้โรงเรียนวัดลาดพร้าวจึงทำการพัฒนาสื่อโดยใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม AR เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความสนใจและตื่นเต้นที่ได้ใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้และนำมาผสมผสานกับนิทานที่สอดแทรกคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยใช้การจัดกิจกรรมแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้นิทานเพื่อทำให้ผู้เรียนเกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันในการทำงาน การช่วยเหลือกันภายในห้องเรียน

             - สร้างสตอรีบอร์ด

             - ออกแบบ User interface และ User Experiment

            - สร้างสื่อต้นแบบ

            - แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน

  ขั้นที่ 3 ขั้นการพัฒนา (Development Phase)

           ในการพัฒนาหนังสือนิทานความเป็นจริงเสริม โรงเรียนวัดลาดพร้าวมุ่งเน้นเนื้อหาที่เกี่ยวกับการเรียนรู้คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 4 ด้าน ได้แก่ความซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย อยู่อย่างพอเพียงและจิตสาธารณะ ซึ่งหลังจากสร้างหนังสือนิทานความเป็นจริงเสริมและเสนอต่อผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อหาคุณภาพด้านความตรงตามเนื้อหา (content validity) และนำมาปรับปรุงเพื่อการนำไปทดลองใช้  หลังปรับปรุงหนังสือนิทานความเป็นจริงเสริมตามคำแนะนำของผู้ทรงคุณวุฒิและนำไปทดลองใช้ (try out) กับกลุ่มที่จะนำนวัตกรรมไปใช้ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับตัวอย่างจริงในการเก็บข้อมูลและนำผลจากการทดลองใช้มาปรับปรุงและหาคุณภาพด้านความเที่ยงแบบความสอดคล้องภายใน (internal consistency reliability)

  ขั้นที่ 4 ขั้นการดำเนินการ (Implementation Phase)

           ในขั้นตอนการดำเนินการนี้ ก่อนนำนวัตกรรมไปใช้ ได้ทำการประเมินความรู้ก่อนเรียนของกลุ่มตัวอย่างก่อนการนำหนังสือนิทานความเป็นจริงเสริมโดยใช้ข้อสอบ(Paper base) และนำนวัตกรรมนิทานความเป็นจริงเสริมใช้กับผู้เรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และประเมินความรู้หลังจากใช้หนังสือความเป็นจริงเสริมกับผู้เรียน

  ขั้นที่ 5 ขั้นการประเมินผล (Evaluation Phase)

                     ประเมินผลการศึกษาทดลองใช้หนังสือนิทานความจริงเสริมเพื่อเสริมสร้างลักษณะอันพึงประสงค์ 4 ด้าน ได้แก่ ความซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย อยู่อย่างพอเพียง และจิตสาธารณะ ร่วมกันในชั้นเรียน โดยมีการประชุมติดตามผลหลังจากนำหนังสือนิทานความเป็นจริงเสริมไปใช้โดยประชุมร่วมกันของครูผู้สอนกับผู้อำนวยการสถานศึกษา โดยนำผลที่ได้ไปวิเคราะห์ข้อมูล ปรับปรุง แก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ เพื่อให้พัฒนางานดีขึ้นแล้ว จึงเผยแพร่หนังสือนิทานความจริงเสริมสู่นักเรียนในระดับชั้นอื่นต่อไป


ผลจากการปฏิบัติ

1.ได้ผลงานที่เป็นนวัตกรรม ชุดนิทานเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนวัดลาดพร้าว สังกัดกรุงเทพมหานคร โดยใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมที่สร้างขึ้นพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน 4 ด้านคือ  1.ซื่อสัตย์สุจริต  2.มีวินัย  3. อยู่อย่างพอเพียง และ4. มีจิตสาธารณะ เป็นหนังสือนิทาน 4 ชุด ชุดละ 3 เล่มในแต่ละด้าน  รวมจำนวน 12 เล่ม  ประกอบด้วย

          ชุดที่ 1 เสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านความซื่อสัตย์สุจริต    จำนวน  3 เล่ม ได้แก่

1) หนูแก้วใจร้ายกับแมวแสนดี  2) เกสรกับหินสีขาวหินสีดำ   3) ความซื่อสัตย์

          ชุดที่ 2 เสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านความมีวินัย จำนวน  3 เล่ม ได้แก่

1) ลูกเป็ดไม่มีวินัย 2) กวางน้อยขาดวินัย  3) กระต่ายน้อยยอดกตัญญู

          ชุดที่ 3   เสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านอยู่อย่างพอเพียง จำนวน  3 เล่ม ได้แก่

1) ออมไว้มีทางแก้ 2) พอเพียงแค่เพียงพอ  3) ชายหนุ่มกับยักษ์

ชุดที่ 4 เสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านการมีจิตสาธารณะ จำนวน  3 เล่ม ได้แก่

1)      นกฮูกหลงตน  2) แมงมุมจอมตะกละ  3) นายเจ็ดหม้อเจ็ดโอ่ง

2. ผลการใช้นวัตกรรมชุดนิทานเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของโรงเรียนวัดลาดพร้าว

โดยใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมพบว่า นักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยจากการทำแบบทดสอบก่อนเรียน  เท่ากับ 10.82  จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน  คิดเป็นร้อยละ  54.14 และได้คะแนนเฉลี่ยจากแบบทดสอบหลังเรียน  เท่ากับ  17.94  จากคะแนนเต็ม  20 คะแนนคิดเป็นร้อยละ  89.71 นั่นคือ  ดังนั้นชุดนิทานเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนวัดลาดพร้าว สังกัดกรุงเทพมหานคร โดยใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมมีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.57/89.71ซึ่งมีผลเป็นไปตามเกณฑ์ประสิทธิภาพของกระบวนการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน

          3. ผลการใช้นวัตกรรมที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน  ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลางขั้นพื้นฐาน มีการพัฒนาขึ้นใน 4 ด้าน  ดังนี้  

          ผู้เรียนมีความสุขในการอ่านและใช้เทคโนโลยีในการอ่านหนังสือที่พัฒนาคุณลักษณะที่พึงประสงค์  นักเรียนลดการทะเลาะกัน อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข มีระเบียบวินัยมากขึ้น มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่  ลดความก้าวร้าวและมีความเอื้ออาทรต่อกันมากขึ้น  มีจิตสาธารณะ และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้น

          ครูมีแนวทางในการพัฒนาผู้เรียนด้วยเทคโนโลยีบูรณาการด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความใฝ่รู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง และสามารถนำไปใช้ต่อยอดในการพัฒนาสื่อการเรียนรู้อื่นๆที่เหมาะสมตามศักยภาพของเด็ก

          ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนด้วยการร่วมอ่านหนังสือกับนักเรียน ให้ความร่วมมือกันในการพัฒนาการศึกษาของบุตรหลานด้วยความเต็มใจ โดยเฉพาะด้านการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน

          สถานศึกษามีผลการใช้ค่าสาธารณูปโภคลดลงอย่างต่อเนื่อง  รัฐบาลให้งบประมาณอุดหนุนรายหัวของสถานศึกษา ซึ่งต้องหักเป็นค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคร้อยละ 40 การที่ค่าใช้จ่ายลดลงเป็นการเพิ่มประโยชน์ในการใช้งบประมาณลงสู่ผู้เรียนมากขึ้น จากข้อมูลของสำนักงานเขตลาดพร้าว พบว่าโรงเรียน   วัดลาดพร้าวมีค่าน้ำประปา  ปีงบประมาณ 2559   เป็นเงิน 83,542.74 บาท ปีงบประมาณ 2560  มีค่าน้ำประปา  เป็นเงิน  44,856.15 บาท ค่าไฟฟ้า ปีงบประมาณ 2559 เป็นเงิน 806,218.29  บาท ปีงบประมาณ 2560  มีค่าไฟฟ้า เป็นเงิน 83,542.74 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ลดลงอย่างชัดเจน ซึ่งเกิดจากคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนด้านการมีวินัย  และความพอเพียง ในเรื่องของการประหยัด