สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร
Department of Education
การพัฒนาทักษะการอ่านการเขียนได้
โรงเรียนคลองสอง
กระบวนการพัฒนา

จากการสังเกตพบว่านักเรียนส่วนใหญ่ของโรงเรียนคลองสองมีปัญหาด้านการอ่านและการเขียน นักเรียนบางคนอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนหนังสือไม่ค่อยได้และเขียนไม่ถูกจึงทำให้เป็นปัญหาในการเรียนการสอนในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้และส่งผลกระทบต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนด้วย

ทางโรงเรียนจึงได้มีการพัฒนาทักษะการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนโดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้

        1.เพื่อพัฒนาให้นักเรียนอ่านออกเขียนได้อ่านคล่องและเขียนคล่อง

        2.เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้

        3.เพื่อส่งเสริมให้คณะครูจัดกิจกรรมแก้ปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ของนักเรียนอย่างเป็นระบบ

        4.เพื่อพัฒนาครูให้ใช้สื่อในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านออกเขียนได้และอ่านคล่องเขียนคล่องอย่างมีประสิทธิภาพ

กระบวนการพัฒนาทักษะการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนดังนี้


     1. วิเคราะห์สภาพปัจจุบันปัญหาของนักเรียนที่มีปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ เช่น นักเรียนขาดทักษะพื้นฐานการอ่านการเขียนทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน นักเรียนมีสมาธิในการเรียนรู้สั้น การจัดการเรียนการสอนไม่สอดคล้องกับธรรมชาติการเรียนรู้ของสมองของเด็ก (BBL)  เป็นต้น

     2. ประชุมสร้างความตระหนักให้กับบุคลากรและผู้ปกครอง ให้เห็นความสำคัญของภาษาไทย แม้ครูที่สอนสาระการเรียนรู้อื่น โดยเป็นแบบอย่างที่ดีและร่วมกันส่งเสริมการใช้ภาษาไทยของนักเรียน

     3. ผู้บริหารสถานศึกษาส่งเสริมบุคลากรในการสร้างนวัตกรรมที่ส่งเสริมการอ่านและการเขียนและนิเทศ ติดตามให้ทุกคนนำไปปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน

     4. มอบหมายให้ครูทุกท่านรับผิดชอบนักเรียนตามจำนวนที่ได้รับมอบหมายเพื่อดำเนินการพัฒนาการอ่านและการเขียนของนักเรียนทุกวัน

     5. ผู้บริหารสถานศึกษาดำเนินการควบคุม กำกับและติดตามอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยให้ครูประจำชั้นส่งรายงานการพัฒนาการออ่านและการเขียนให้กับผู้บริหารสถานศึกษาทุกวันสิ้นเดือน 

กิจกรรมที่  1  แบ่งกลุ่มนักเรียนที่คัดกรองออกเป็น 3 กลุ่ม  กลุ่มที่อ่านไม่ได้( กลุ่มนักเรียนเรียนร่วม)

กลุ่ม ที่อ่านไม่คล่อง   และกลุ่มปานกลาง        ประชุมคณะครู มอบหมายการสอนทักษะการอ่านโดยใช้สื่อ นวัตกรรมแบบฝึก    กระบวนการ เทคนิคที่หลากหลาย แบ่งให้ครู1 คน ต่อนักเรียน 3-5 คน  ใช้เวลาตอนพักกลางวัน12.00 น. ถึง 12.30 น.ทุกวัน จันทร์  - ศุกร์  ที่ห้องประชุมจามจุรี

กิจกรรมที่  2   ครูประจำชั้น ฝึกทักษะการอ่าน เขียน ในชั่วโมงภาษาไทยเพิ่มกับเด็กเป็นรายบุคคล

กิจกรรมที่  3  ส่งเสริมกิจกรรมรักการอ่าน

                    3.1  จัดมุมรักการอ่านในห้องเรียน

                    3.2  กิจกรรมอ่านก่อนเข้าแถวเคารพธงชาติ

                    3.3  กิจกรรม  10 นาทียามเช้า สร้างลูกรักการอ่าน  (ตาม นโยบาย กทม. )

                    3.4  กิจกรรมภาษาไทยวันละคำ

                     3.5  กิจกรรมบันทึกรักการอ่าน

กิจกรรมที่ 4    การวัดและประเมินผล โดยจัดให้มีการทดสอบการอ่าน  การเขียน เดือนละ1 ครั้ง

                          รายงานผลสรุปผลการดำเนินการต่อผู้บริหาร

 


 


ผลจากการปฏิบัติ

     

       1.นักเรียนมีทักษะการอ่านออก เขียนได้ และอ่านคล่อง เขียนคล่อง เด็กมีความสนใจในการเรียนทำให้ระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในทุกกลุ่มสาระของนักเรียนเพิ่มขึ้น ครูมีความกระตือรือร้น แสวงหานวัตกรรม ส่งเสริมใช้สื่อ จัดกิจกรรมแก้ปัญหาการอ่านออก เขียนได้ทำให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น

2. ระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ของนักเรียนสูงขึ้น

3. คณะครูจัดกิจกรรมแก้ปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ของนักเรียนอย่างเป็นระบบ

4. ครูมีสื่อในการจัดกิจกรรมส่งเสริมอ่านออกเขียนได้และอ่านเขียนคล่องอย่างมีประสิทธิภาพ