โรงเรียนดำเนินการอย่างเป็นระบบ โดยการกำหนดมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียน โดยกำหนดให้มีมาตรฐานที่ 4 กระบวนการจัดการศึกษาพิเศษ (เรียนร่วม) โดยมีโครงการกิจกรรม เพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาพิเศษ (เรียนร่วม) ในโรงเรียนได้อย่างมีคุณภาพ ดำเนินงานตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของโรงเรียน มีการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง และดำเนินงานตามแผนปฏิบัติงานประจำปี มีการกำกับติดตามตรวจสอบการดำเนินงาน สรุปผลการประเมินอย่างเป็นระบบ แจ้งผลให้กับผู้เกี่ยวข้อง ทุกภาคส่วนได้รับทราบและมีการติดตามแก้ไข ป้องกัน ข้อบกพร่องอันอาจจะเกิดขึ้นได้ โรงเรียนได้มีการคัดกรองโดยใช้แบบประเมินจุดแข็ง และจุดอ่อน SDQ (Strengths and Difficulties Questionnaire: SDQ) และแบบคัดกรองเด็กพิการ 9 ประเภทตามแบบกระทรวงศึกษาธิการ (สพฐ.) และได้รับการประสานความร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช ในการให้ความรู้และการคัดกรองนักเรียน และจัดกิจกรรมส่งเสริมความสามารถ กระตุ้นการเรียนรู้ รวมถึงการปรับพฤติกรรม และการส่งต่อเพื่อเข้ารับการรักษา มีการจัดชั้นเรียนร่วมแบบเต็มเวลา ให้กับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษได้เรียนร่วมในทุกชั้นเรียน ผู้บริหาร ครูการศึกษาพิเศษ ครูแนะแนว ได้ประสานความร่วมมือ ระหว่าง ครูประจำชั้น ผู้ปกครอง และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ดำเนินการจัดประชุมเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการและวางแผน ในการจัดทำแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP)  เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนที่มีความต้องการพิเศษได้เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน 

        โรงเรียนมีการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนอย่างหลากหลาย ที่เป็นไปตามความต้องการการพัฒนาตามศักยภาพของผู้เรียน สอดคล้องกับจุดเน้นของโรงเรียนและสภาพของชุมชน ครูจัดกระบวนการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีการวิเคราะห์ ออกแบบและจัดการเรียนรู้ที่เป็นไปตามความต้องการของหลักสูตร และบริบทโรงเรียนมีการติดตาม ตรวจสอบ และช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาการแก้ไข้ปัญหาเป็นรายบุคคล ผู้เรียนมีความสามารถตามแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) และได้รับการส่งเสริมการยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลายพร้อมทั้งสนับสนุนให้โอกาศนักเรียนที่ด้อยโอกาสทางด้านการศึกษา

     จากการดำเนินการ ตามกระบวนการจัดการศึกษาพิเศษ (เรียนร่วม) จึงทำให้ได้รับรายงานการประเมินคุณภาพ ผลการตรวจเยี่ยมภายใต้สถานการณ์ COVID– 19 (การตรวจเยี่ยมผ่านระบบวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์) เมื่อวันที่ 23 เดือนมีนาคม  พ.ศ.2564 จากสำนักงานรองรับมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(สมศ.) รายงานการตรวจเยี่ยมดังนี้

          โรงเรียนมีแผนพัฒนาการศึกษา ด้านการศึกษาพิเศษที่เป็นจุดเน้น สะท้อนถึงจุดเด่นของโรงเรียนอย่างชัดเจน ซึ่งได้นำไปสู่การพัฒนาศักยภาพผู้เรียนพิเศษ ให้ถึงพร้อมศักยภาพของบุคคล จนเกิดทักษะความสามารถ ให้มีความพร้อมไปสู่การเรียนร่วมปกติ โดยใช้แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) ให้มีความพร้อมสู่บริการช่วงเชื่อมต่อ ส่งต่อไปยังชั้นที่สูงขึ้น ผ่านกิจกรรมที่โรงเรียนกำหนดให้ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมในรูปแบบออนไลน์ นักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ (เรียนร่วม) สามารถเรียนรู้และร่วมกิจกรรมสามารถในการใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ตลอดจนการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์การเรียนรู้และการดำรงชีวิตประจำวันในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019  และพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามที่โรงเรียนกำหนด มีความภูมิใจในท้องถิ่น ความเป็นไทย ซึ่งมีแผนการประเมินผู้เรียนพิเศษเป็นรายบุคคล โดยมีแพทย์จากโรงพยาบาลศิริราชเป็นผู้ให้คำปรึกษา คัดกรอง จัดกิจกรรม และประเมินผล เพื่อพัฒนาผู้เรียนพิเศษ ผลการประเมินผู้เรียนพิเศษ มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องเป็นลำดับทุกปี และผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษ (เรียนร่วม) มีความพร้อมในการศึกษาต่อ เมื่อจบหลักสูตรระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  สามารถเข้าศึกษาต่อที่สถานศึกษาอื่นในระดับที่สูงขึ้น ตลอดจนเป็นสถานที่เรียนรู้ ศึกษาดูงานจากหน่วยงานภายนอก ส่งผลให้โรงเรียนได้รับรางวัลผลงานระดับชาติ และรางวัลพระราชทานฯ ที่เป็นผู้นำแผนด้านการจัดการศึกษาพิเศษ 1 ใน 8 ของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครอย่างต่อเนื่อง จนเป็นแบบอย่างที่ดี Best Practice ของการปฏิบัติงาน ที่คงรักษาคุณภาพมาตรฐานไว้อย่างยั่งยืน เป็นที่พึงพอใจของผู้เกี่ยวข้องที่ร่วมกันดำเนินงาน ทั้งชุมชน แพทย์ ผู้ปกครอง อย่างไรก็ตาม โรงเรียนสามารถที่จะต่อยอดการพัฒนาการศึกษาพิเศษให้มีความต่อเนื่องยึดบริบทเป็นสำคัญ เช่น การส่งเสริมแผนบริการช่วยเหลือเฉพาะครอบครัวของเด็ก แผนการงานอาชีพเฉพาะผู้เรียนรายบุคคล แผนการดำเนินชีวิตตามศักยภาพของแต่ละคนเพื่อการส่งต่อเป็นต้น