1. เกริ่นนำ
กระบวนการ/วิธีการดำเนินงานในอดีต
ปลูกฝังการอ่านอย่างต่อเนื่อง
สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเร้าความสนใจ ดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ปัญหาการอ่าน
เริ่มจากง่ายไปหายาก
เริ่มจากหนังสือที่ชอบหรือสนใจนำไปสู่ความแปลกใหม่ของการเรียนรู้
สภาพทั่วไป
ด้วยโรงเรียนลำพะอง (ราษฎร์จำเริญบำรุง)
ได้เล็งเห็นความสำคัญของการอ่านและสอดคล้องกับนโยบายของกรุงเทพมหานคร
จึงได้จัดกิจกรรมเพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาการอ่านของนักเรียน
โดยกำหนดเป้าหมายให้นักเรียนที่อ่านหนังสือไม่ออกต้องเป็นศูนย์ จากการทดสอบประเมินสภาพการอ่านของนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่
๑-๖ ของผู้บริหารและครูผู้สอนภาษาไทยในภาคเรียนที่ ๑/๒๕๖๒ ปรากฏว่ามีนักเรียนจำนวน
๖๙ คนยังอ่านหนังสือไม่ออก ส่งผลทำให้การเรียนไม่ดี
ต้องได้รับการพัฒนาอย่างเร่งด่วน
ลักษณะสำคัญของวิธีหรือแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศ
๑. ประชุมชี้แจงให้ครูและบุคลากรเข้าใจถึงความสำคัญของการอ่าน
๒. ดำเนินการด้วยวิธีที่หลากหลาย
ทำให้นักเรียนรักการอ่าน โดยจัดนักเรียนที่อ่านไม่ออก อ่านไม่คล่อง
โดยให้ครู ๑
คนดูแลนักเรียนซ่อมเสริมการอ่านจำนวน 2-3 คน
๓.
จัดโครงการและกิจกรรมที่ส่งเสริมและแก้ปัญหาเกี่ยวกับการอ่าน
วัตถุประสงค์ของวิธีหรือแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศ
๑. เพื่อแก้ปัญหาการอ่านไม่คล่อง การอ่านไม่ออกของนักเรียน
๒. เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ให้สูงขึ้น
๓. เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน
(O-NET)
ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
เป้าหมาย
ตัวชี้วัดเชิงปริมาณ นักเรียนโรงเรียนลำพะอง (ราษฎร์จำเริญบำรุง) ที่อ่านหนังสือไม่คล่อง อ่านหนังสือไม่ออก
ลดลง ร้อยละ ๙๐ ขึ้นไป
ตัวชี้วัดเชิงคุณภาพ
นักเรียนทุกคนอ่านหนังสือออก และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น
2. ลำดับขั้นตอนการดำเนินกิจกรรมพัฒนา
Flow Chart (แผนภูมิ) ของวิธีหรือแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศ
ขั้นที่ 1 คัดกรองนักเรียน
ขั้นที่ 2 ประชุมชี้แจงและมอบหมายให้ครูดูแลนักเรียนที่อ่านไม่ออก/อ่านไม่คล่องอย่างใกล้ชิด
ขั้นที่ 3 ครูดำเนินการสอนอ่านนักเรียนตามที่ได้รับมอบหมาย
ขั้นที่ 4 ติดตามและประเมินผลเป็นระยะ
ขั้นที่ 5 จัดกิจกรรมเสริม และจัดทำสื่อ นวัตกรรมเสริมการเรียนรู้ที่หลากหลาย
3.
ผลการดำเนินการ
ระบุผลการดำเนินงานตามเป้าหมาย-ตัวชี้วัดที่กำหนดทั้งเชิงปริมาณ
และ/หรือคุณภาพ
- นักเรียนมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
จำนวนนักเรียนที่อ่านหนังสือไม่คล่อง อ่านหนังสือไม่ออกลดลงร้อยละ ๙๕
ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนด และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนของ Best Practice แล้วส่งผลต่อโรงเรียนอย่างไร
1. นักเรียนได้รับรางวัลเกี่ยวกับภาษาไทย
๒.
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้สูงขึ้น
๓. ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ปีการศึกษา ๒๕๖๑ มีพัฒนาการดีขึ้นและมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าระดับประเทศทุกปี
๔.
ผลการประเมินความสามารถทางการอ่านของผู้เรียน RT ชั้นประถมศึกษาปีที่
1 ปีการศึกษา ๒๕๖๑ สูงกว่าระดับประเทศและสูงกว่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด
๕.
ผลการทดสอบความสามารถพื้นฐานของผู้เรียนระดับชาติ NT ชั้นประถมศึกษาปีที่
3 ปีการศึกษา
๒๕๖๑ สูงกว่าระดับประเทศและสูงกว่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด