๑. ชื่อผลงาน กิจกรรมการประดิษฐ์และเชิดหุ่นมือสู่ความเป็นเลิศ
๒. ชื่อเจ้าของผลงาน (ระบุชื่อโรงเรียน)
โรงเรียนวัดนาคนิมิตร (สว่างนพราษฎร์วิทยา)
๓. เกริ่นนำความเป็นมา
การเล่นหุ่น หรือการแสดงหุ่น คือ
การแสดงที่ใช้รูปจำลองที่มีกลไก ทำให้รูปจำลองนั้นเคลื่อนไหวได้โดยการเชิด
หรือการชักแทนการใช้ตัวคนในการดำเนินเรื่อง การแสดงหุ่นเป็นมหรสพอย่างหนึ่งที่มีมาช้านาน
และเป็นที่รู้จักแพร่หลาย ตามภูมิภาคต่างๆ ของโลก การแสดงหุ่นสามารถถ่ายทอดเรื่องราวในการดำเนินชีวิต
ที่ใช้แสดง มีส่วนสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับเรื่องราวชีวิตจริงของมนุษย์
มีการเขียนบทเพื่อใช้แสดงหุ่นนับเป็นพันๆ เรื่อง โดยกวีและนักปราชญ์จำนวนมาก
และมีการฝึกฝนผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเล่นแสดงหุ่น เช่น ผู้ประดิษฐ์ตัวหุ่น
ผู้ออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้าและเครื่องประดับสำหรับหุ่น ผู้อ่านบท นักดนตรี
ผู้เชิดหุ่น และอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก โรงเรียนวัดนาคนิมิตรเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของชาติ
จึงได้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านกระบวนการฝึกฝนทักษะให้กับนักเรียนในการประดิษฐ์หุ่นมือ
และเชิดหุ่นมือ สามารถพัฒนาทักษะด้านการใช้ภาษา สำหรับเป็นผู้อ่านบท
และผู้เชิดหุ่น และพัฒนาความสามารถด้านศิลปะ ดนตรี สำหรับการประดิษฐ์หุ่นมือ
และนักดนตรีประกอบการแสดง รวมถึงด้านอื่นๆที่เกี่ยวข้อง จึงได้จัดกิจกรรมการเรียนรู้การประดิษฐ์และเชิดหุ่นมือเพื่อพัฒนาทักษะสู่ความเป็นเลิศ
๔. วัตถุประสงค์
๑. เพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษา โดยถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ เช่น นิทาน วรรณคดี
วรรณกรรมร่วมสมัยฯ ผ่านการแสดงหุ่น
๒. เพื่อให้นักเรียนได้แสดงออก
มีส่วนลงมือทำกิจกรรมด้วยตนเอง
๓. เพื่อเป็นการส่งเสริมความสามารถในการประดิษฐ์หุ่นมือในรูปแบบต่าง
ๆ มาดัดแปลงให้เกิดประโยชน์ตามจินตนาการได้
๑. การจัดการเรียนรู้ในการจัดประดิษฐ์หุ่นมือในแต่ละระดับชั้น
มีกำหนดการสอน ดังนี้
๑.๑ ระดับปฐมวัย
๑.๑.๑ ครูจัดประสบการณ์การเรียนรู้ในช่วงกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ของแต่ละวัน เพื่อให้เด็กสามารถประดิษฐ์หุ่นมือด้วยตนเอง ตามกำหนดการสอน คือ
ชั้นปฐมวัยปีที่
1 เรื่อง
การระบายสีหุ่นมือ
ชั้นปฐมวัยปีที่ 2 เรื่อง หุ่นมือเล่านิทาน
๑.๑.๒ นำหุ่นมือที่ประดิษฐ์ด้วยตนเอง มาแสดงเล่านิทานในช่วงกิจกรรมเสริมประสบการณ์เพื่อให้เด็กเกิดจินตนาการ และความเพลิดเพลิน
๑.๒ ระดับประถมศึกษา
๑.๒.๑ ครูจัดการเรียนการสอนโดยให้นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานการประดิษฐ์หุ่นมือ
จากวัสดุต่างๆ ในการเรียนชั่วโมงชมรมของแต่ละระดับชั้น ตามกำหนดการสอน คือ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ เรื่อง หุ่นนิ้ว
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ เรื่อง หุ่นไม้ไอศกรีม
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ เรื่อง หุ่นมือถุงกาแฟ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ เรื่อง หุ่นมือถุงกาแฟ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ เรื่อง หุ่นมือโดยใช้เทคนิคเปเปอร์มาเช่
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ เรื่อง หุ่นมือโดยใช้เทคนิคเปเปอร์มาเช่
๑.๒.๒ เมื่อนักเรียนสามารถประดิษฐ์หุ่นมือเป็นผลงานของตนเองได้แล้ว ครูจัดการเรียนการสอนการเล่านิทานประกอบการเชิดหุ่นมือ ในชั่วโมงภาษาไทย ตามแผนการจัดการเรียนรู้ โดยครูผู้สอนเป็นผู้แนะนำ และดำเนินกิจกรรมตามลำดับ ดังนี้
- เรียนรู้หลักการเล่านิทาน ให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าจากหนังสือในห้องสมุด และแหล่งเรียนรู้อื่นๆ เช่น วีดิทัศน์ สื่อออนไลน์
- เขียนบทนิทานก่อนเล่า แบ่งกลุ่มนักเรียนเขียนบทนิทานที่มีคติสอนใจ กลุ่มละ ๑ เรื่องครูเป็นผู้ช่วยแนะนำในเรื่องการใช้ภาษาสำนวนให้ถูกต้อง
- กำหนดหน้าที่รับผิดชอบในการแสดง นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันกำหนดบทบาทว่าใครจะเป็นผู้เล่า และใครจะเป็นผู้เชิดหุ่นตามความเหมาะสม
- ฝึกการเชิดหุ่นมือ ครูเป็นผู้ฝึกสอนการเชิดหุ่นมือพื้นฐานให้กับนักเรียน ตามความเหมาะสมของวัยนักเรียน เพื่อให้นักเรียนรู้จักการควบคุมนิ้วมือ โดยฝึกให้นักเรียนใช้แขน และมือ สอดเข้าไปในถุงซึ่งเป็นลำตัวหุ่น และใช้นิ้วชี้สอดให้ตรงกับรูที่เชื่อมระหว่างลำตัวกับศีรษะหุ่น เพื่อบังคับส่วนศีรษะของหุ่น นิ้วโป้งและนิ้วกลางใช้บังคับมือและแขนทั้ง ๒ ข้างของหุ่น
- แสดงผลของการฝึก นักเรียนแต่ละกลุ่มแสดงนิทานจากหุ่นมือของกลุ่มตนเอง หลังแสดงจบ ครูให้ข้อเสนอแนะและมอบหมายให้
นักเรียนที่แสดงได้ดี
จัดแสดงช่วงกิจกรรมหน้าเสาธง หรือตอนพักกลางวัน
๑.๒.๓ จัดกิจกรรมประกวดการเชิดหุ่นมือในแต่ละระดับชั้นเพื่อเฟ้นหานักเรียนที่มีความสามารถในการเล่านิทาน
และการเชิดหุ่นมือ เพื่อเป็นทีมการเล่านิทานประกอบการเชิดหุ่นของโรงเรียน และพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ
๑.๒.๔. หลังจากที่ครูคัดเลือกนักเรียนที่มีความสามารถในด้านต่างๆ
แล้ว ครูผู้รับผิดชอบกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเชิดหุ่น เช่น ครูบรรณารักษ์
ครูดนตรีไทย ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย และครูที่เกี่ยวข้อง
จะฝึกซ้อมนักเรียนโดยฝึกซ้อมในตอนเย็นหลังเลิกเรียนในเวลา ๑๕.๓๐-๑๖.๓๐ น. โดยฝึกการเล่านิทาน
ฝึกเชิดหุ่นมือตามอารมณ์ ความรู้สึก ซึ่งครูจะฝึกซ้อมทั้งผู้เล่าและผู้เชิด
นักเรียนทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการแสดงเชิดหุ่นต้องสามารถจำบทของตนเองได้
เชิดหุ่นให้ตรงกับคำพูด ท่าทาง รักษาระดับการเชิดให้คงที่
๑.๒.๕. นักเรียนทำการฝึกซ้อมหลายๆ
ครั้ง จนได้การแสดงที่สมบูรณ์และสมจริงที่สุด
เมื่อนักเรียนซ้อมเชิดหุ่นจนเกิดทักษะได้ในระดับหนึ่งแล้ว
จะให้นักเรียนฝึกซ้อมการแสดงเชิดหุ่นมือควบคู่กับดนตรีไทย
ในการกำกับจังหวะของการแสดง
ซึ่งครูดนตรีไทยจะฝึกซ้อมนักเรียนให้สามารถเล่นได้เข้ากับจังหวะการเชิดหุ่น
ผู้ชมจะได้อรรถรสทั้งจากการแสดงเชิดหุ่นที่เข้าถึงอารมณ์
และเสียงประกอบจากดนตรีไทย ที่ใช้การแสดงดนตรีสด
นักเรียนทุกคนจะต้องฝึกให้มีความชำนาญจนเกิดการแสดงที่เป็นหนึ่งเดียวทั้งผู้อ่านบท ผู้เชิด และนักดนตรี
๑.๒.๖ ส่งเสริมและสนับสนุนนักเรียน
เพื่อเป็นตัวแทนของโรงเรียนในการประกวดแข่งขันการเล่านิทานประกอบการเชิดหุ่นกับหน่วยงานอื่นๆ
เพื่อพัฒนาสู่ความเป็นเลิศและสร้างประสบการณ์การเรียนรู้นอกห้องเรียนให้กับนักเรียน
๖.ผลสำเร็จ
๑. นักเรียนมีทักษะการพัฒนาทักษะการใช้ภาษา
และภูมิใจในการสร้างสรรค์ผลงานของตนเอง
๒. นักเรียนมีความกล้าแสดงออก กล้าพูด
กล้าแสดงต่อที่ชุมชน
๓.
ผลงานนักเรียนได้รับรางวัลจากกิจกรรมการเล่านิทานประกอบการเชิดหุ่นมือของหน่วยงานของรัฐและเอกชน ดังนี้
-
๒๐ พฤศจิกายน
๒๕๕๒ รับรางวัลชนะเลิศประเภทสวยงาม การแข่งขันประดิษฐ์และการแสดงหุ่นมือ
รับถ้วยประทานจากพระองค์เจ้าโสมสวลีฯ จัดโดยสภาวัฒนธรรมเขตจอมทอง
-
๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘
รับรางวัลชนะเลิศ การประกวดแข่งขันแสดงหุ่น “สุดยอดการถ่ายทอดค่านิยมหลักของคนไทย ๑๒ ประการ”
จัดโดยสภาวัฒนธรรมเขตจอมทอง ร่วมกับสำนักงานเขตจอมทอง
รับถ้วยรางวัลจาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์
บริพัตร
-
๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๐
รับรางวัลชนะเลิศ และรางวัลความคิดสร้างสรรค์ การประกวดแข่งขันแสดงหุ่นตามพระบรมราโชวาท
“๙ คำสอนของพ่อ” จัดโดยสภาวัฒนธรรมเขตจอมทอง
รับถ้วยรางวัลจาก พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง
-
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
รางวัลชนะเลิศ “การประกวดหนูน้อยนพมาศจิตอาสา” จากวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ร่วมกับ
บริษัท ไทยเบฟเวอเรส และกรุงเทพมหานคร ได้รับถ้วยรางวัล และเงินรางวัล ๑๐,๐๐๐ บาท
-
นอกจากนี้ยังได้จัดการแสดงในงานที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียน
วัด และชุมชน ทำให้นักเรียนเกิดความภาคภูมิใจในผลงานที่ได้สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียน
และเป็นการเสริมสร้างประสบการณ์อันทรงคุณค่าให้กับนักเรียน
๗. ผลการได้รับการยอมรับ
ผลจากการพัฒนากิจกรรมการประดิษฐ์และเชิดหุ่นมือ จนมีผลงานเชิงประจักษ์อย่างต่อเนื่อง
ทำให้เป็นที่ยอมรับและเป็นประโยชน์ควรค่าแก่การเผยแพร่ถ่ายทอดองค์ความรู้แก่ผู้อื่นซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ด้านการศึกษา
จึงได้ประชาสัมพันธ์การประดิษฐ์และการเชิดหุ่นมือฝีมือนักเรียน โดยการถ่ายทอดรายการ ช่อง ๙ ร่วมใจ
คนไทยไม่ทิ้งกัน ช่วง “อย่างนี้ต้องยกนิ้วให้” ในปี ๒๕๕๒ และได้ให้สัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน วันอาทิตย์ที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ หน้า ๒๔ คอลัมน์ “สุดยอดหุ่นมือฝีมือเยาวชน”