วิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practices)
อะไรคือวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (What?)วิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศของระบบการเรียนรู้ของโรงเรียนวัดบางปะกอก คือ “การใช้สื่อ ICT เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ๘ กลุ่มสาระในการสอบNTของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ และO – Net ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖”
วิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศทำอย่างไร (How?) วิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) “การใช้สื่อ ICT เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ๘ กลุ่ม สาระในการสอบNTของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ และ O – Net ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่๖ ”ของโรงเรียนวัดบางปะกอกมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
๑.
ขั้นเตรียมความพร้อม
๑) เตรียมความพร้อมด้านงบประมาณและวัสดุอุปกรณ์ โรงเรียนวัดบางปะกอกมีห้องเรียน ICT เพื่อการเรียนรู้ จำนวน ๓ ห้อง เพื่อส่งเสริมให้ครูและนักเรียนได้รับความสะดวกในการเรียนรู้ด้วยการใช้สื่อ ICT อย่างเต็มที่
๒) เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เนื่องจากทางโรงเรียนได้ส่งครูกลุ่มสาระการเรียนรู้สาระต่างๆ ทั้ง ๘ กลุ่มสาระ เข้ารับการศึกษาอบรมการผลิตและการใช้สื่อ ICT อย่างต่อเนื่อง จากสำนักการศึกษา จนครูมีทักษะการผลิตและการใช้สื่อ สามารถนำมาขยายผลแก่ครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้ของตนได้
๒. ขั้นการพัฒนาและใช้สื่อ ICT
เมื่อครูพบปัญหานักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำและจะแก้ปัญหาด้วยการใช้สื่อ
ICT พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้นนั้น การพัฒนาและใช้สื่อ
ICT มีลำดับขั้นตอน ดังนี้
๑)
ออกแบบบทเรียน เนื้อหาและแบบทดสอบ
๒) ผลิตสื่อด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆ เช่น Authroware , PowerPoint, จัดการเรียนการสอนแบบ Online เป็นต้น ๓) ประเมินคุณภาพของสื่อ ICT ด้วยการใช้แบบประเมินสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอนของกระทรวงศึกษาธิการ นำมาปรับปรุงประเด็นข้อคำถามบางข้อให้มีข้อความที่สัมพันธ์กับเนื้อหาของวิชาที่จัดทำ
๔) นำสื่อไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน
๕) หาประสิทธิภาพของสื่อ ICT ที่นำมาใช้โดยการหาค่าเฉลี่ยร้อยละของแบบทดสอบระหว่างเรียนและแบบทดสอบหลังเรียนเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้ (หาค่า E1/E2)
๓. ขั้นสรุปผลรายงาน
เมื่อครูใช้สื่อ ICT ในการจัดการเรียนรู้เสร็จสิ้น
ต้องจัดทำบันทึกผล การจัดการเรียนรู้แล้วสรุปผล
รายงานต่อหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ
และผู้บริหารโรงเรียน เพื่อนำผลที่ได้ไปประเมินการพัฒนางานต่อไป
จากผลการดำเนินงานดังกล่าวโรงเรียนมีการประเมินทบทวนอย่างต่อเนื่องโดยมีผลการประเมินทบทวนดังนี้
๑)
ด้านครู
ตารางที่ ๑ แสดงผลการประเมินทบทวนในปีการศึกษา ๒๕๖๒ และในปีการศึกษา ๒๕๖๓
ด้านกระบวนการในขั้นตอนการวิเคราะห์ให้ผู้เรียนและการจัดการเรียนการสอนตามตัวชี้วัดสำคัญดังต่อไปนี้
ที่ |
ตัวชี้วัดสำคัญ |
ผลการประเมิน ทบทวน |
เป้าหมาย ปี ๒๕๖๔ |
|
๒๕๖๒ |
๒๕๖๓ |
|||
1 |
ร้อยละของครูนำโปรแกรมการวิเคราะห์แบบแผนการเรียนรู้ (Leaning
Style) มาใช้ประกอบในขั้นตอนวิเคราะห์ผู้เรียน |
๘๕ |
๑๐๐ |
๑๐๐ |
2 |
ร้อยละของครูนำสื่อ
ICT
มาใช้การจัดการเรียนการสอน |
๘๕ |
๙๗ |
๑๐๐ |
3 |
ร้อยละของผลิตสื่อ
ICT
มาใช้การจัดการเรียนการสอน |
๘๐ |
๘๖ |
๙๐ |
๒)
ด้านนักเรียน
ตารางที่ ๒ แสดงผลการประเมินทบทวนในปี
การศึกษา ๒๕๖๒ และในปี การศึกษา ๒๕๖๓
ด้านผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน
ที่ |
|
ผลการประเมินทบทวน |
|
1 |
ร้อยละของผู้เรียนที่มีผลการเรียนเฉลี่ยในระดับดี
(ระดับ ๓.๐๐ – ๔.๐๐) |
๓๘.๙๗ |
๘๐.๘๕ |
2 |
ร้อยละของนักเรียนที่ผลการเรียน
0 |
๔.๕๒ |
๐ |
โรงเรียนวัดบางปะกอกมีการใช้สื่อ ICT เพื่อการพัฒนาระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ๘ กลุ่มสาระ ในการสอบNTของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ และO – Net ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ทำให้นักเรียนเกิดความกระตือรือร้นไม่เบื่อหน่ายต่อการเรียน ทั้งยังทำให้เป็นคนทันสมัยพร้อมก้าวทันเทคโนโลยีในศตวรรษที่ ๒๑ ซึ่งได้แก่ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะสารสนเทศ สื่อ เทคโนโลยี ทักษะชีวิตและอาชีพไปพร้อมๆกันซึ่งทางโรงเรียน ได้คัดสรรครูที่มีความรู้ความสามารถด้านเนื้อหาวิชาตรงตามตัวชี้วัด และมีจิตวิทยากับนักเรียนในวัยนี้ทำการระดมสมองช่วยกันเลือกเนื้อหาที่เห็นว่าเหมาะสมกับนักเรียนและง่ายต่อความเข้าใจของนักเรียน ครูที่ทำหน้าที่ผลิตสื่อ ICT ก็จะคัดเลือกสื่อ ICT ให้เหมาะสมกับเนื้อหาและวัยของนักเรียน เมื่อนำมาใช้แล้วก็จะประเมินผล ปรับปรุงแก้ไข ซึ่งทำให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ มีคะแนนผลสอบNT สูงกว่าระดับประเทศทั้ง ๓ ด้าน และมีนักเรียนสอบได้ ๑๐๐ คะแนนเต็มในวิชาความสามารถด้านการคำนวณ และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ มีผลการทดสอบ O-Net ผ่านขีดจำกัดล่างทุกกลุ่มสาระสามารถผ่านเกณฑ์การประเมินได้และรับรางวัลโล่เกียรติคุณ ในฐานะที่เป็นโรงเรียนที่มีคะแนนเฉลี่ยผลการสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐา น ( O - Net) สูงกว่าระดับประเทศทุกวิชาต่อเนื่อง ๖ ปี คือ ปีการศึกษา ๒๕๕๘ – ๒๕๖๓