วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ
ขั้นเตรียมการ
โรงเรียนมนต์จรัสสิงห์อนุสรณ์
ได้มีการประชุมพิจารณาร่วมกันเพื่อกำหนดเป้าหมาย
โดยให้บุคลากรได้ทราบจุดเด่นและจุดที่ต้องปรับปรุงในด้านการอ่านและให้เป็นที่ยอมรับของผู้ที่เกี่ยวข้อง
จึงได้จัดโครงการซ่อมเสริมเพื่อแก้ไขปัญหาการอ่านเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการอ่านให้ดีขึ้นและส่งเสริมให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านพัฒนาการเรียนรู้ของตนเองอย่างต่อเนื่อง
โดยมีขั้นตอน ดังนี้
๑. คัดกรองนักเรียนและแบ่งกลุ่มนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่
๑ ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓
1.1
ประเมินทักษะการอ่านของนักเรียนเป็นรายบุคคล โดยใช้กระบวนการดังนี้
- อ่านคำพื้นฐานในแต่ละระดับชั้นที่ครูกำหนด
ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึง
ระดับชั้นมัธยมศึกษาศึกษาปีที่
๓
- บันทึกผลการอ่าน
- ประเมินผลการอ่านเพื่อแบ่งกลุ่มนักเรียน โดยใช้หลักการและเกณฑ์การประเมินการอ่าน
ดังนี้
หลักการให้คะแนน
ตอนที่ ๑ คำ กลุ่มคำ
อ่านถูกต้อง ๑ คำ ๑
คะแนน
อ่านผิด ๑ คำ หัก ๑
คะแนน
ตอนที่ ๒ ประโยค
อ่านถูกต้อง ๑ ประโยค
๑ คะแนน
อ่านผิด ๑ ประโยค
หัก ๑ คะแนน
ตอนที่ ๓ ข้อความ
อ่านถูกต้อง ๑๐
คะแนน
อ่านผิด ๓ คำ หัก ๑
คะแนน
เกณฑ์การประเมิน คะแนนการอ่านคำ กลุ่มคำ
ประโยค และข้อความ
ระดับชั้น |
คะแนน |
ร้อยละ |
ระดับคุณภาพ |
หมายเหตุ |
ป. ๑ – ม. ๓ |
32-40 |
80.00 |
๔ |
|
28-31 |
70.00-79.๐๐ |
๓ |
|
|
24-27 |
๖๐.๐๐-69.00 |
๒ |
|
|
0-23 |
60.00 ลงไป |
๑ |
|
ระดับคุณภาพ
๔ หมายถึง เริ่มอ่านคล่อง
ระดับคุณภาพ
๓ หมายถึง อ่านไม่คล่อง
ระดับคุณภาพ
๒ หมายถึง เริ่มอ่านได้
ระดับคุณภาพ
๑ หมายถึง อ่านไม่ได้
1.2
แบ่งกลุ่มนักเรียนตามผลการประเมินจากการคัดกรองเพื่อเป็นแนวทางแก้ไขและพัฒนาการอ่านด้วยวิธีการและนวัตกรรมที่เหมาะสมกับนักเรียนในแต่ละกลุ่มและได้แบ่งกลุ่มดังนี้
กลุ่มที่ 1 นักเรียนอ่านไม่ได้
กลุ่มที่ 2 นักเรียนเริ่มอ่านได้
กลุ่มที่ 3 นักเรียนอ่านไม่คล่อง
กลุ่มที่ ๔ นักเรียนเริ่มอ่านคล่อง
ขั้นดำเนินการ
โรงเรียนมนต์จรัสสิงห์อนุสรณ์
ได้กำหนดกิจกรรม วิธีการและนวัตกรรมการพัฒนารายกลุ่มที่เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละกลุ่ม
เพื่อฝึกทักษะการอ่านของนักเรียนให้เหมาะสมมากขึ้น ดังนี้
กลุ่มที่
๑ นักเรียนอ่านไม่ได้
- อ่านบัญชีคำพื้นฐานของระดับประถมศึกษาตอนต้น
-
อ่านหนังสือกับครูในตอนเช้าของวันจันทร์,วันอังคาร,วันพฤหัสบดี,และวันศุกร์
ตั้งแต่เวลา ๐๗.๔๐
– ๐๘.๓๐ น.
- สังเกตพัฒนาการอ่านของนักเรียน
-
เปลี่ยนแบบฝึกหัดการอ่านและประเมินผลการอ่านทุก ๓ เดือน
-
ซ่อมเสริมการอ่านเป็นรายบุคคลนอกเวลาเรียนในกิจกรรมลูกรัก
-
ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ – ๓ สอนอ่านซ่อมเสริมตอนเย็น
หลังเลิกเรียนตั้งแต่เวลา
เวลา 15.30-16.10 น. ของทุกวัน
-
ให้นักเรียนค้นคว้าหาหนังสืออ่านเพิ่มเติมในห้องสมุด ตะกร้าความรู้และมุมรักการอ่าน
กลุ่มที่ 2 นักเรียนเริ่มอ่านได้
-
อ่านบัญชีคำพื้นฐานของระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ – ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖
- อ่านคำ / อ่านประโยค / อ่านข้อความสั้น ๆ
-
อ่านหนังสือกับครูในตอนเช้าของวันจันทร์,วันอังคาร,วันพฤหัสบดี,และวันศุกร์
ตั้งแต่เวลา ๐๗.๔๐
– ๐๘.๓๐ น.
- สังเกตพัฒนาการอ่านของนักเรียน
-
เปลี่ยนแบบฝึกหัดการอ่านและประเมินผลการอ่านทุก ๓ เดือน
-
ซ่อมเสริมการอ่านเป็นรายบุคคลนอกเวลาเรียนในกิจกรรมลูกรัก
-
ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ – ๓ สอนอ่านซ่อมเสริมตอนเย็น
หลังเลิกเรียนตั้งแต่เวลา 15.30-16.10 น. ของทุกวัน
- ให้นักเรียนค้นคว้าหาหนังสืออ่านเพิ่มเติมในห้องสมุด ตะกร้าความรู้และมุมรักการอ่าน
- อ่านบัญชีคำพื้นฐานของระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
- อ่านนิทาน / บทความ / หนังสือ
-
อ่านหนังสือกับครูในตอนเช้าของวันจันทร์,วันอังคาร,วันพฤหัสบดี,และวันศุกร์
ตั้งแต่เวลา ๐๗.๔๐
– ๐๘.๓๐ น.
- สังเกตพัฒนาการอ่านของนักเรียน
-
เปลี่ยนแบบฝึกหัดการอ่านและประเมินผลการอ่านทุก ๓ เดือน
-
ซ่อมเสริมการอ่านเป็นรายบุคคลนอกเวลาเรียนในกิจกรรมลูกรัก
-
ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ – ๓ สอนอ่านซ่อมเสริมตอนเย็น
หลังเลิกเรียนตั้งแต่เวลา 15.30-16.10 น. ของทุกวัน
-
ให้นักเรียนค้นคว้าหาหนังสืออ่านเพิ่มเติมในห้องสมุด ตะกร้าความรู้และมุมรักการอ่าน
กลุ่มที่ ๔ นักเรียนเริ่มอ่านคล่อง
- อ่านบัญชีคำพื้นฐานของระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
- อ่านนิทาน / บทความ / หนังสือ / ข่าว
-
อ่านหนังสือกับครูในตอนเช้าของวันจันทร์,วันอังคาร,วันพฤหัสบดี,และวันศุกร์
ตั้งแต่เวลา ๐๗.๔๐ – ๐๘.๓๐ น.
- สังเกตพัฒนาการอ่านของนักเรียน
- เปลี่ยนแบบฝึกหัดการอ่านและประเมินผลการอ่านทุก
๓ เดือน
-
ซ่อมเสริมการอ่านเป็นรายบุคคลนอกเวลาเรียนในกิจกรรมลูกรัก
-
ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ – ๓ สอนอ่านซ่อมเสริมตอนเย็น
หลังเลิกเรียนตั้งแต่เวลา
15.30-16.10 น. ของทุกวัน
- ให้นักเรียนค้นคว้าหาหนังสืออ่านเพิ่มเติมในห้องสมุด ตะกร้าความรู้และมุมรักการอ่าน
ขั้นประเมินผล
๑. กำกับติดตามเพื่อประเมินผลการอ่านของนักเรียนแต่ละกลุ่ม โดยมีการทดสอบการอ่านในทุก
๓ เดือนเพื่อดูพัฒนาการการอ่านของนักเรียนอย่างต่อเนื่อง
เมื่อนักเรียนมีพัฒนาการด้านการอ่านผ่านเกณฑ์จะได้เลื่อนไปในกลุ่มต่อไป
๒. สรุปผลการดำเนินงานของโครงการซ่อมเสริมเพื่อแก้ไขปัญหาการอ่านของนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่
๑ ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ของโรงเรียนมนต์จรัสสิงห์อนุสรณ์ สรุปได้ว่า
๒.๑ นักเรียนมีพัฒนาการด้านการอ่านผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้
๒.๒ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในรายวิชาต่าง
ๆ มีการพัฒนาสูงขึ้น
๒.๓ ผลการทดสอบระดับชาติ (NT) ความสามารถด้านภาษามีการพัฒนาสูงขึ้น
๒.๔
ผลการทดสอบระดับชาติ (O-Net) ในวิชาภาษาไทยมีคะแนนพัฒนาขึ้น
๒.๕
ผลการทดสอบด้านการอ่าน (RT) มีการพัฒนาสูงขึ้น
ขั้นพัฒนาแก้ไข / ปรับปรุง
๑. นำผลการประเมินการอ่านของนักเรียนในแต่ละกลุ่มที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์มาปรับปรุงแก้ไขโดยจัดแบบฝึกให้เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน
๒. มีการพัฒนาและเปลี่ยนแบบฝึกการอ่านให้เหมาะสมกับศักยภาพของนักเรียนในแต่ละกลุ่มทุก
๓ เดือน
๓. มีการประเมินการอ่านระหว่างการจัดกิจกรรม
สำหรับนักเรียนในแต่ละกลุ่ม
ผลการดำเนินงาน
ผลจากการดำเนินงาน โครงการซ่อมเสริมเพื่อแก้ไขปัญหาการอ่านได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
ทำให้ความสามารถในการอ่านของนักเรียนมีพัฒนาการที่ดีขึ้น เป็นที่ยอมรับจากนักเรียน ผู้ปกครอง
และชุมชน ดังนี้
๑. ความสามารถด้านการอ่านภาษาไทยของนักเรียนพัฒนาขึ้น
จำนวนนักเรียนที่อ่านไม่ออก
มีจำนวนลดลง
๒. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาต่าง ๆ มีการพัฒนาสูงขึ้น
๓. นักเรียนมีผลการทดสอบความสามารถพื้นฐานของผู้เรียนระดับชาติ
NT ของนักเรียนระดับ
ชั้นประถมศึกษาปีที่
3 ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๐ จากลำดับที่ 428 มีการพัฒนาขึ้นเป็นลำดับที่ 198
๔. นักเรียนมีผลการทดสอบทางการศึกษาระดับขั้นพื้นฐาน
O-Net ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ปีการศึกษา 2559 มีคะแนนพัฒนาจาก 1.35 เพิ่มขึ้นเป็น ๒.๐๖ เมื่อเทียบกับปีการศึกษา
๒๕๖๐ และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา ๒๕๕๙ มีคะแนนพัฒนาจาก ๐.๗๕ เพิ่มขึ้นเป็น ๑.๘๓ เมื่อเทียบกับปีการศึกษา ๒๕๖๐
๕. ผลการทดสอบ RT ปีการศึกษา 2560 ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ได้ลำดับที่ ๒
ในระดับสังกัดสำนักงานเขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร
๖. นักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน ใฝ่รู้ใฝ่เรียน สามารถแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเอง