1. สภาพปัญหา
เด็กชั้นอนุบาลและนักเรียนประถมศึกษาได้รับเงินจากผู้ปกครองมาโรงเรียนในแต่ละวัน
เพื่อใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์การเรียน ขนม น้ำดื่ม เมื่อเหลือเงินในแต่ละวันครูและผู้ปกครองส่วนใหญ่จะแนะนำให้นักเรียนนำเงินส่วนนี้ไปหยอดกระปุกออมสินที่บ้าน
นำมาฝากไว้กับครูประจำชั้นโดยลงบัญชีฝากในสมุด
สิ้นเดือนทางโรงเรียนจะเชิญเจ้าหน้าที่ธนาคารมาเปิดบัญชีให้และรับฝากเงิน
หรือไม่ก็ให้ผู้ปกครองพานักเรียนนำเงินไปฝากธนาคารด้วยตนเอง ซึ่งทำให้เกิดความยุ่งยากและไม่ปลอดภัยในการเก็บรักษาเงิน
ทางโรงเรียนมองเห็นถึงปัญหานี้และต้องการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้กับนักเรียน
สร้างวินัยทางการเงิน การเห็นคุณค่าของเงิน มีนิสัยรักการออมตั้งแต่เยาว์วัย
รู้จักประหยัด วางแผนในอนาคตได้ จึงได้ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
เป็นผู้ให้คำแนะนำ และวางระบบการบริหารจัดการ พร้อมทั้งสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานในระยะเริ่มต้นเพื่อก่อตั้งโรงเรียนธนาคารเพื่อการออมขึ้น
2. วัตถุประสงค์ของวิธีหรือแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศ
1 ) ส่งเสริมให้นักเรียนมีการออมทรัพย์อย่างสม่ำเสมอ
2
) เพื่อฝึกฝนให้นักเรียนรู้หลักการบริหารและการบริการที่ถูกต้อง
3 ) เพื่อเสริมสร้างลักษณะนิสัยด้านความรับผิดชอบ คุณธรรม จริยธรรมให้กับนักเรียน
4
) เพื่อสร้างแหล่งเรียนรู้ทางด้านการเงินให้กับนักเรียน
3. เป้าหมาย
ตัวชี้วัดเชิงปริมาณ
นักเรียนโรงเรียนวัดพลมานีย์ จำนวน 1,201 คน เข้าร่วมโครงการ
. ตัวชี้วัดเชิงคุณภาพ
1)
นักเรียนมีนิสัยรักการออม มีความรับผิดชอบ มีคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่หลักสูตรสถานศึกษากำหนด
2) ผู้ปกครองให้ความร่วมมือในการดำเนินโครงการของโรงเรียน
4.
ลำดับขั้นตอนการดำเนินกิจกรรมพัฒนา Flow Chart (แผนภูมิ)
ของวิธีหรือแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศ
ได้ดำเนินการในรูปของคณะกรรมการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
(ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 5 ขั้นตอน โดยใช้หลักการมีส่วนร่วม ดังนี้
ขั้นที่
1 ผู้บริหารสถานศึกษา
ครู ผู้ปกครอง และบุคลากรในโรงเรียนมีส่วนร่วมในการดำเนินงานของโรงเรียนธนาคารเพื่อการออม โดยมีการประชุม
วางแผน หาแนวทาง ศึกษาบริบท สภาพปัญหาของโรงเรียน โดยการรับข้อมูล
รับฟังข้อคิดเห็นจากครู นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน มีการสอบถามและเปิดโอกาสให้แสดงความเห็นถึงปัญหาและความต้องการ
แนวทางการแก้ไขปัญหาและพัฒนาผู้เรียนร่วมกัน
ขั้นที่
2.ผู้บริหารสถานศึกษาและคณะกรรมการดำเนินงานนำข้อมูลที่ได้รับจากทุกฝ่ายมาวิเคราะห์สภาพปัญหาที่พบ
แนวทางปฏิบัติ และประสบการณ์ที่ได้ปฏิบัติมาตั้งแต่อดีตเพื่อร่วมกันวางแผนและกำหนดแนวทางการดำเนินงานในอนาคต
ขั้นที่ 3 ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมกันปฏิบัติ โดยพิจารณาเลือกแนวทางการดำเนินงานที่เหมาะสม นำไปสู่การตัดสินใจในการปฏิบัติงานของโรงเรียน โดยใช้กระบวนการ PDCA นำข้อมูลที่ได้รับเข้าประชุมชี้แจง ระดม ความคิด เน้นให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการพิจารณา ร่วมกันปฏิบัติงาน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติให้บรรลุ ตามเป้าหมายที่โรงเรียนกำหนด เริ่มตั้งแต่นำเสนอโครงการต่อผู้บริหารสถานศึกษา เพื่ออนุมัติโครงการ ติดต่อประสานงานกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เพื่อเข้าร่วมโครงการ ประชาสัมพันธ์โครงการให้คณะครู บุคลากร ผู้ปกครอง ได้รับทราบ เปิดรับสมัครเจ้าหน้าที่ ธนาคารโรงเรียนฝ่ายนักเรียน จัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการฝ่ายต่าง ๆ เชิญเจ้าหน้าที่ธนาคารมาให้เป็นพี่เลี้ยงคำแนะนำวิธีการดำเนินงานโรงเรียนธนาคาร พร้อมจัดสรรงบประมาณในการดำเนินโครงการโรงเรียนธนาคาร ติดตั้งระบบและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการดำเนินการ เปิดทำการรับสมัครสมาชิกโรงเรียนธนาคาร ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดย เปิดทำการในวันอังคาร วันพุธ วันพฤหัสบดี เวลา 07.00-07.50 น.และ 11.45-12.20 น. เปิดบัญชีขั้นต่ำ 50 บาท ฝากขั้นต่ำ 5 บาท มุ่งปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ด้านความรับผิดชอบ ด้านระเบียบวินัยให้เกิดขึ้นแก่ผู้เรียน และเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับผู้เรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ ที่ให้ประสบการณ์ตรง ขั้นที่ 4 ใช้กระบวนการร่วมประเมินผล ตรวจสอบ ทบทวน และประเมินกระบวนการปฏิบัติงานอย่างสม่ำเสมอ ผลลัพธ์ที่เกิดจากการปฏิบัติงานและประเมินความพึงพอใจของนักเรียนและผู้เกี่ยวข้อง ได้แก่ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะครู ชุมชน นำผลการประเมินไปวิเคราะห์ เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาและส่งเสริมให้ตรงกับความต้องการ แก้ปัญหา อุปสรรคในการทำงาน เพื่อพัฒนางานต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่องต่อไป
ขั้นที่ 5 ขยายผลและเผยแพร่ผลงาน
ความภาคภูมิใจในความสำเร็จของโครงการให้ผู้ปกครอง ชุมชมคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
และต่อโรงเรียนต่าง ๆ ได้ร่วมชื่นชม และรายงานผลการดำเนินงาน เมื่อสิ้นปีการศึกษา
5. ผลการดำเนินการ
1) ผู้เรียนมีนิสัยรักการออม
คิดเป็นร้อยละ 95.60 และผู้เรียน ผู้ปกครอง ครู บุคลากร มีความพึงพอใจต่อกิจกรรมของโครงการโรงเรียนธนาคารเพื่อการออม
คิดเป็นร้อยละ 98.40 สรุป ความสำเร็จของโครงการ
คิดเป็นร้อยละ 97.43
3) โรงเรียนธนาคารของโรงเรียนวัดพลมานีย์
ได้รับความเชื่อถือ เชื่อมั่นจากผู้ปกครอง การดำเนินงานของโรงเรียนมีความถูกต้อง
เชื่อถือ โปร่งใส ตรวจสอบได้ ระบบการทำงานถูกต้องตามระบบของธนาคาร
4) โรงเรียนมีแหล่งเรียนรู้ทางด้านการเงิน
๖.
ปัจจัยความสำเร็จ
1) ใช้หลักการมีส่วนร่วมของผู้บริหารสถานศึกษา
คณะครู บุคลากร ชุมชน ผู้ปกครอง และหน่วยงานจากภายนอก คือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
รวมทั้งกำหนดทิศทางสู่เป้าหมายการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์
คุณธรรม จริยธรรมของนักเรียนที่ชัดเจน
2) วัฒนธรรมการทำงานขององค์กร ที่ทุกฝ่ายรักและผูกพันต่อสถานศึกษาให้ความร่วมมือมุ่งมั่น ทุ่มเท เสียสละในการปฏิบัติงาน มีบรรยากาศการทำงานที่ดี รักและสามัคคีกัน ผู้ปกครอง ชุมชนให้ความร่วมมือ ยอมรับ และศรัทธาต่อสถานศึกษา พร้อมให้การสนับสนุนในการดำเนินงานของโรงเรียนธนาคารเพื่อการออม
7.
การเผยแพร่/การได้รับการยอมรับ และ/หรือรางวัลที่ได้รับ
1)
โรงเรียนธนาคารวัดพลมานีย์ได้รับรางวัลชนะเลิศ
ในการประกวดโรงเรียนธนาคารดีเด่น
กลุ่มประถมศึกษา ระดับจังหวัด ประจำปี 2557 จัดโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
2)
โรงเรียนธนาคารวัดพลมานีย์ได้รับรางวัลชมเชย
ในการประกวดโรงเรียนธนาคารดีเด่น
กลุ่มประถมศึกษา ระดับภาค ประจำปี 2557 จัดโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
3)
โรงเรียนธนาคารวัดพลมานีย์ได้รับรางวัลชมเชย
ในการประกวดโรงเรียนธนาคารดีเด่น
กลุ่มประถมศึกษา ระดับภาค ประจำปี 2562
4)
ได้รับการเยี่ยมชมจากคณะกรรมการ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา
รอบที่ 4 เพื่อดูระบบบริหารการจัดการของโรงเรียนธนาคาร
5) เป็นแหล่งศึกษาดูงานของสถานศึกษาอื่น ได้แก่ โรงเรียนคลองต้นไทร
โรงเรียนวัดทิพพาวาส โรงเรียนวัดปากบึง โรงเรียนสังฆประชานุสรณ์ โรงเรียนวัดสังฆราชา โรงเรียนวัดเทพลีลา
โรงเรียนสุเหร่าวังใหญ่ โรงเรียนขุมทองเพชรทองคำ โรงเรียนในสังกัดเอกชน เขตประเวศ โรงเรียนสุเหร่าบึงหนองบอน
โรงเรียนวัดพิชัย และโรงเรียนแสงหิรัญวิทยา
6)
ป้ายนิเทศประชาสัมพันธ์ของโรงเรียน
7) วารสาร
“พลมานีย์สาร” ของโรงเรียน
8) Facebook: “แฟนเพจโรงเรียนวัดพลมานีย์” และ Youtube