โครงการ “เก่งและดี TO BE NUMBER ONE” เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติดคาดหวังให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะ กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออกในเชิงสร้างสรรค์ และมีคุณธรรมจริยธรรม ทำคุณประโยชน์ให้กับสังคม โรงเรียน ครอบครัว และพัฒนาตนเองในการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด มีทักษะในการดำเนินชีวิต สามารถดำรงตนในสังคมแห่งการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีความสุข พร้อมเป็นบุคคลต้นแบบในการขับเคลื่อนกิจกรรมต่าง ๆ            ให้ปรากฏเป็นรูปธรรมตามโครงการพระราชดำริ พร้อมขยายเครือข่ายสู่ชุมชน ส่งผลให้เยาวชนในสังคมห่างไกล ยาเสพติด กระบวนการดำเนินงานของโครงการ “เก่งและดี TO BE NUMBER ONE” มีขั้นตอนที่เป็นระบบ            เริ่มจากการจัดตั้งชมรม TO BE NUMBER ONE ในสถานศึกษา เข้าร่วมโครงการ TO BE NUMBER ONE เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด และได้ดำเนินกิจกรรมศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ปรับทุกข์ สร้างสุข แก้ปัญหา พัฒนา EQ ด้วยกิจกรรมค่ายพัฒนาสมาชิก TO BE NUMBER ONE สู่ความเป็นหนึ่งด้วยกิจกรรม TO BE NUMBER ONE กิจกรรมหารายได้เข้ากองทุนของชมรม กิจกรรมรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด         และเข้าร่วมประกวดแข่งขันชมรม TO BE NUMBER ONE รวมถึงมีการขยายเครือข่าย TO BE NUMBER ONE สัญจรและศึกษาดูงานเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างเครือข่ายเยาวชนที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันในการดำเนินชีวิตอย่างสร้างสรรค์ ปลอดยาเสพติด จากนั้นมีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความตระหนักรู้และปลูกฝังค่านิยมที่ดีให้กับสังคม ผ่านสื่อหลากหลายช่องทาง รวมถึงการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่กระตุ้นให้เยาวชนได้แสดงออกอย่างเหมาะสม เช่น การแข่งขัน TO BE NUMBER ONE IDOL การจัดค่ายพัฒนาทักษะชีวิต การจัดกิจกรรม         จิตอาสา และกิจกรรมด้านศิลปะ กีฬา ดนตรี

        ในการดำเนินงานโครงการ “เก่งและดี TO BE NUMBER ONE” โรงเรียนอำนวยกนกศิริอนุสรณ์              ได้ดำเนินการตามกระบวนการ PDCA (Plan-Do-Check-Act) เป็นวงจรการบริหารคุณภาพและการปรับปรุง             อย่างต่อเนื่องมีขั้นตอน ดังนี้

        1. ขั้นเตรียมการ (P)

            1.1   ศึกษาบริบทและสภาพความพร้อมของครู นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน

            1.2   ประชุมกับผู้บริหาร ครูและคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองเพื่อหาแนวทางในการปฏิบัติงานเพื่อให้การดำเนินงานบรรลุผลสำเร็จ

            1.3   จัดทำแผนงานโดยมีการศึกษายุทธศาสตร์ นโยบาย จุดเน้นของโรงเรียน และดำเนินการออกแบบกิจกรรม เพื่อรองรับการจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน

            1.4   แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน

            1.5   กำหนดแนวทางการดำเนินงาน

        2. ขั้นดำเนินการ (D)

            2.1   ประชุมคณะกรรมการ ครู บุคลากรที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงแนวทางและมอบหมายภาระงาน

            2.2   จัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ โดยมีคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม ออกแบบกิจกรรม เป็นวิทยากรและร่วมนิเทศ ติดตาม

        3. ขั้นนิเทศ ติดตามผล (C)

            3.1   ครูและผู้เรียนร่วมกันประเมินผลโดยใช้แบบสอบถามความพึงพอใจในการเข้าร่วมกิจกรรม

            3.2   มีการนิเทศติดตามผลการจัดกิจกรรม/โครงการ

        4. ขั้นปรับปรุงและรายงานผล (A)

            4.1   สรุปและประเมินการดำเนินงาน

            4.2   นำข้อเสนอแนะของผู้เรียน มาปรับปรุงรูปแบบและวิธีการดำเนินงาน และพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพแก่ผู้เรียน

            4.3   พัฒนาและปรับปรุงการจัดกิจกรรม ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เรียนจนได้รับรางวัลต่าง ๆ และให้ผู้เรียนได้แสดงศักยภาพจนเป็นที่ยอมรับขององค์กรและหน่วยงานอื่น ๆ

            4.4   จัดทำรายงานผลการดำเนินงานกิจกรรม/โครงการเมื่อจัดกิจกรรมเสร็จสิ้นทุกกิจกรรม นำเสนอต่อฝ่ายบริหาร

            4.5   ประชาสัมพันธ์กิจกรรม/โครงการผ่านช่องทางต่าง ๆ ของโรงเรียนอำนวยกนกศิริอนุสรณ์ เช่น การรายงานข่าวผ่าน Line Facebook และเว็ปไซต์ของ โรงเรียน

                    จากกระบวนการทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่าโครงการ “เก่งและดี TO BE NUMBER ONE” ไม่เพียงแต่สร้างภูมิคุ้มกันต่อยาเสพติดให้แก่เยาวชนเท่านั้น แต่ยังมุ่งสร้างโอกาสในการพัฒนาตนเอง ส่งเสริมความสามารถ และปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีให้เกิดขึ้นในสังคมอย่างยั่งยืน โครงการนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชนไทย และเป็นรากฐานของการสร้างสังคมที่เข้มแข็งต่อไปในอนาคต ผลการดำเนินงานที่ส่งผลที่ดีต่อเด็ก ผู้เรียน หรือสถานศึกษ

1. ผู้เรียนมีภูมิคุ้มกันทางจิตใจที่ดีและเข้มแข็ง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและอบายมุขทุกประเภท

        2. ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองเต็มศักยภาพตามความสนใจและความถนัด กล้าคิด กล้าทำ และกล้าแสดงออก            เป็นคนรุ่นใหม่ที่เชื่อมั่น ภาคภูมิใจในและเห็นคุณค่าในตนเอง

        3. ผู้เรียนได้เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างสรรค์ตามความสนใจและความถนัดโดยการสนับสนุนของสังคม

        4. ผู้เรียนเข้าใจและยอมรับผู้มีปัญหายาเสพติดโดยให้โอกาสกลับมาเป็นคนดีของสังคม     

        5. ผู้เรียน ผู้ปกครอง และชุมชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด