๑. ประชุมครูและบุคลากรสายชั้นอนุบาล เพื่อกำหนดเป้าหมาย วางแผนการทำงานในการจัดกิจกรรมศิลปะเพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็ก

 ๒. จัดชุดกิจกรรมการจัดประสบการณ์ศิลปะสร้างสรรค์ ลงในแผนการจัดประสบการณ์ ที่เน้นการฝึกทักษะกระบวนการปฏิบัติ ซึ่งประกอบด้วย ๕ ขั้นตอน ขั้นสังเกตรับรู้ ขั้นทำตามแบบ ขั้นทำเองโดยไม่มีแบบ ขั้นฝึกให้ชำนาญ และขั้นฝึกทำตามความคิดสร้างสรรค์ เช่น การฉีก ตัด ปะ ภาพ การปั้นดินน้ำมัน การพิมพ์ภาพ การวาดภาพ เป็นต้น

๓. บันทึกผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยใช้แบบประเมินพัฒนาการด้านสติปัญญา                             

๔. วัดและประเมินผลจากการทำกิจกรรมของเด็ก นำผลที่ได้มาปรับปรุงและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น

๑. เด็กร้อยละ ๘๐ มีพัฒนาการด้านสติปัญญาในการใช้ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการตามที่สถานศึกษากำหนด เช่นความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ เด็กมีความที่คิดแตกต่างไปจากเดิม ด้วยความรู้ที่ผสมผสานนำมาคิดและดัดแปลงใหม่มีคุณค่ามากกว่าเดิม

๒. ครูผู้สอนตระหนักเห็นคุณค่าของชุดกิจกรรมการจัดประสบการณ์ศิลปะสร้างสรรค์ ที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก สามารถนำแนวทางการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ไปพัฒนาและต่อยอดเด็กได้

๓. ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริม สนับสนุน และจัดหาวัสดุอุปกรณ์ให้กับเด็ก และมีส่วนร่วมในการประเมินผลงานเด็กร่วมกัน