โรงเรียนประชาภิบาล
ดำเนินโครงการโรงเรียนคาร์บอนต่ำ โดยจัดตั้งแกนนำนักเรียนขึ้นเพื่อเป็นผู้นำในการทำกิจกรรมต่างๆ
ภายใต้ชื่อ “BABY AssetWise” โดยแบ่งออกเป็น 4 ด้าน ดังนี้
1.
เกษตรเป็นมิตร
ตัวอย่างกิจกรรม เช่น
1.1 กิจกรรมผักปลอดสารพิษ
1.2 กิจกรรมปลูกผักไฮโดรโปนิกส์
1.3 กิจกรรมปุ๋ยอินทรีย์รักษ์โลก
2.
สิ่งแวดล้อมสีเขียวลดคาร์บอน
ตัวอย่างกิจกรรม เช่น
2.1 กิจกรรมอบรมให้ความรู้ แยก-เท-คว่ำ
2.2 กิจกรรมขยะแลกของ
2.3 กิจกรรมเก็บข้อมูล บันทึกผล ขยะพลังงาน ขยะรีไซเคิล
ขยะเศษอาหาร
2.4 กิจกรรมสำรวจการเดินทางของครู
และนักเรียน
2.5 กิจกรรมประกวดระบายสีภาพ รณรงค์ปิดน้ำ
- ปิดไฟ
2.6 ก๊อกลดปริมาณการใช้น้ำ
2.7 กิจกรรมประหยัดไฟด้วยหลอด LED (เปลี่ยนเมื่อหลอดเก่าเสีย)
2.8 กิจกรรมม่านต้นไม้กันฝุ่น
ริมระเบียง
3.
ประชาภิบาลอนุรักษ์ต้นไม้
ตัวอย่างกิจกรรม เช่น
3.1 กิจกรรมสำรวจต้นไม้ในโรงเรียน
3.2 กิจกรรม 1 คน 1 ต้น
3.3 รณรงค์เวียนเทียนต้นไม้เนื่องในวันสำคัญทางศาสนา
4.
ประชาภิบาลส่งเสริมชุมชนเข้มแข็งห่างไกลคาร์บอน
ตัวอย่างกิจกรรม เช่น
4.1 กิจกรรมประกวดเต้นประกอบเพลงโรงเรียนประชาภิบาลรักษ์โลกสีเขียว
4.2 กิจกรรมให้ความรู้เรื่อง Solar Cell
4.3 กิจกรรมปลูกฝั่งแยก-เท-คว่ำ ให้เป็นวัฒนธรรม และนำความรู้กลับไปใช้ที่บ้าน
โดยได้บูรณาการเข้ากับกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้ง
8
กลุ่มสาระ เพื่อช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก
และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
สร้างการมีส่วนร่วม และสร้างจิตสำนึกสาธารณะในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
ตามแนวทางของโครงการโรงเรียนคาร์บอนต่ำ (Low
Carbon School)
ข้อมูลทางสถิติที่บ่งชี้ผลสำเร็จของโรงเรียนคาร์บอนต่ำ
1. โรงเรียนมีการจัดเก็บข้อมูลทางสถิติ ได้แก่ ข้อมูลการใช้ไฟฟ้าที่ลดลง ข้อมูลการใช้น้ำที่ลดลง ข้อมูลการใช้จักรยาน(ข้อมูลการเดินทาง) ข้อมูลขนาดพื้นที่สีเขียว ข้อมูลจำนวนต้นไม้ ข้อมูลการลดถุงพลาสติดและโฟม ข้อมูลปริมาณขยะ และการนำขยะไปใช้ประโยชน์ หรือข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยมีวิธีการเก็บข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ ตรวจสอบได้ มีเอกสารหลักฐานชัดเจน
2.
นำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อแสดงผลให้เห็นถึงผลสำเร็จของโรงเรียนคาร์บอนต่ำ
การแสดงผลของข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เช่น ตารางข้อมูล เปรียบเทียบ
ร้อยละก่อนและหลังดำเนินการ กราฟ หรือ แผนภูมิเป็นต้น
โรงเรียนใช้ Platform บางส่วนของการคำควณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (CFO) มาใช้คำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ข้อมูล ม.ค. - ธ.ค. 67)
โดยกำหนดขอบเขตการในการประเมินปริมาณก๊าซเรือนกระจก ดังนี้
- ขอบเขตที่ 1
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรงจากแหล่งกำเนิดก๊าซเรือนกระจก
เช่น การการรั่วซึมของสารทำความเย็น R-32/ R-134a/ R410a น้ำเสียจาก Septic tank
- ขอบเขตที่ 2
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตไฟฟ้า
- ขอบเขตที่ 3
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่น
ๆ เช่น น้ำประปา การจัดการขยะ และการเดินทางของครู นักเรียน และบุคลากรในโรงเรียน
ซึ่งในปี 2567 โรงเรียนมีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด 446 ตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่า โดยเป็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรง (ขอบเขตที่ 1) 38 ตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่า ปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อม (ขอบเขตที่ 2) 10 ตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่า และปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่น ๆ (ขอบเขตที่ 3) 398 ตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่า
ปริมาณการลดก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมของโรงเรียน
1. โรงเรียนมีการนำข้อมูลมาคำนวนหาปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดลงได้ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่โรงเรียนดำเนินการ
2. โรงเรียนสามารถคำนวนหาปริมาณก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมในแต่ละด้าน ได้แก่ การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การเพิ่มพื้นที่สีเขียว ด้านสังคมปลอดขยะ และด้านการมีวิถีชีวิตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ความต่อเนื่องยิ่งยืนของการดำเนินกิจกรรม และการเป็นแหล่งเรียนรู้
1.
โรงเรียนมีการดำเนินกิจกรรมโรงเรียนคาร์บอนต่ำอย่างต่อเนื่อง
จนเป็นวิถีชีวิตของผู้เรียนและบุคลากรในโรงเรียน
?
มีแผนการบูรณาการเข้ากับกลุ่มสาระทั้ง
8
กลุ่ม
1.
กลุ่มสาระคณิตศาสตร์
กิจกรรม ติดตามต้นไม้วัดส่วนสูง
โดยใช้เครื่องมือไคลโนมิเตอร์แนวทางในอนาคต
กลุ่มสาระคณิตศาสตร์ให้นักเรียนติดตามต้นไม้ทุกๆ 3 เดือน เพื่อให้เกิดความผูกพัน และมีจิตสำนึกรักสิ่งแวดล้อม
2.
กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี กิจกรรมที่บูรณาการในรายวิชาวิทยาศาสตร์คือ
การให้ความรู้เกี่ยวกับพลังงานสะอาด และพาไปศึกษาดูงานที่สวน 15
นาที เขตบางเขน เพื่อให้เห็นการใช้พลังงานโซล่าเซลล์
ในอนาคตโรงเรียนมุ่งหมายอยากใช้พลังงานโซล่าเซลล์ให้ได้ทั้งอาคารสำนักงานเพื่อ
ลดค่าไฟฟ้าและประหยัดพลังงาน
3.
กลุ่มสาระภาษาไทย
บูรณาการด้วยการแต่งคำขวัญรณรงค์ประหยัดพลังงาน ปิดน้ำไฟ
ในส่วนของอนาคตในกลุ่มสาระภาษาไทยมีการจัดกิจกรรมอื่นๆ
เช่นตรวจสอบชื่อของต้นไม้แต่ละชนิดในโรงเรียน
หรือหาชื่อมงคลชื่อไทยเดิมของต้นไม้ในโรงเรียนแนวทางในอนาคตของกลุ่มสาระภาษาไทยเน้นไปในทางการแต่งคำขวัญแต่งกลอน
และต่อยอดด้วยการประชาสัมพันธ์ในสื่อของโรงเรียน
4.
กลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ
บูรณาการในรูปแบบการหาคำศัพท์หรือชื่อภาษาอังกฤษของต้นไม้
หรือคำศัพท์ภาษาอังกฤษส่วนประกอบของต้นไม้บริเวณโรงเรียน
แนวทางในอนาคตอาจจะเป็นการแต่งคำขวัญภาษาอังกฤษหรืออาจจะให้คุณครูแต่งคำขวัญภาษาอังกฤษแล้วให้นักเรียนคัดลายมือประกวด
5.
กลุ่มสาระศิลปะ
บูรณาการด้วยวิธีการระบายสีภาพใบงานรณรงค์ประหยัดพลังงานปิดน้ำไฟ
และนำไปติดบริเวณก๊อกน้ำ ปลั๊กไฟ แนวทางในอนาคต
อาจจะมีการวาดกำแพงของโรงเรียนในหัวข้อสิ่งแวดล้อมในฝันหรือจัดประกวดวาดภาพระบายสีในหัวข้อเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
6. กลุ่มสาระสุขศึกษาและพละศึกษา บูรณาการในการใช้เพลงโรงเรียนประชาภิบาลรักโลกสีเขียวประกอบท่าเต้นออกกำลังกายในตอนเช้าของวันศุกร์ทุกสัปดาห์ แนวทางในอนาคต อาจจะใช้เพลงนี้ต่อยอดประกวดเต้นแอโรบิคส่งแข่งขัน ต่อไป
7.
กลุ่มสาระสังคมศึกษา
ศาสนา และวัฒนธรรม บูรณาการด้วยการศึกษาท้องถิ่นบางเขนในอดีต
และศึกษาพันธุ์พืชวิถีชีวิตของท้องทุ่งบางเขน
แนวทางในอนาคตต่อยอดด้วยการศึกษาวิถีชีวิตประเพณีเพื่อให้นักเรียนเกิดความสำนึกรัก
และหวงแหนอยากดูแลสิ่งแวดล้อมในท้องที่ของตน
8. กลุ่มสาระการงานอาชีพ บูรณาการด้วยการนำผักปลอดสารพิษมาแปรรูปเป็นอาหาร ศึกษาการปลูกผักปลอดสารพิษ การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ แนวทางในอนาคตต่อยอดกิจกรรมเดิมให้สามารถส่งเสริมตัวนักเรียนหรือสามารถนำไปประกอบอาชีพได้
2. โรงเรียนมีแผนการดำเนินงานโรงเรียนคาร์บอนต่ำในปีการศึกษาถัดไป หรือ มีการวางแผนการดำเนินงานในระยะยาวเพื่อสอดรับกับนโยบายหรือกฎหมายที่กำลังจะบังคับใช้ เช่น การพัฒนาการจัดการทรัพยากรขยะ ขยายต้นไม้เพื่อขายและเวียนเทียน บูรณาการการจัดการการเรียนรู้เรื่องความยั่งยืนอย่างเป็นองค์รวมทั้งด้าน เศรษฐกิจ(การขาย) สังคมสิ่งแวดล้อม(คาร์บอนต่ำ การศึกษา) และธรรมาภิบาล(การบริหารจัดการที่เปิดเผยโปร่งใส) (ESG SDG) และร่วมกันกับภาคีเพื่อออกแบบระบบ ecosystem ทำให้เกิดประโยชน์ได้ครบทุกด้านตามวิสัยทัศน์ที่จะดำเนินกิจกรรมที่เกิดขึ้นแล้ว และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น สู่การเป็นอีกแหล่งเรียนรู้หนึ่งในด้านความยั่งยืนต่อไป
3. โรงเรียนมีแหล่งเรียนรู้การลดก๊าซคาร์บอนภายในโรงเรียน
หรือพัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้
เพื่อเป็นต้นแบบโรงเรียนคาร์บอนต่ำและหน่วยงานภายนอกเข้ามาศึกษาตลอดจนมิติด้านความยั่งยืน