สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร
Department of Education
ส่งเสริมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมดนตรีไทย
โรงเรียนวัดปลูกศรัทธา
กระบวนการพัฒนา

โรงเรียนวัดปลูกศรัทธา ได้ดำเนินโครงการตามขั้นตอนกระบวนการ (PDCA) โดยใช้หลักการจัดจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๓ อ.  ผ่านกระบวนการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยมีรายละเอียดดังนี้



. วางแผนการดำเนินงาน (Plan) ทำการประชุมวางแผนการปฏิบัติงานตามโครงสร้างของหลักสูตรกลุ่มสาระศิลปะ สาระดนตรีไทยและนาฏศิลป์ไทย โดยมีการจัดทำโครงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทย เพื่อเป็นการส่งเสริมการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

. การดำเนินงาน (Do)  ดำเนินการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้หลัก ๓อ. ดังนี้


.ติดตามตรวจสอบและประเมินผล (Check)  ติดตามและตรวจสอบความสำเร็จของงานตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ มีการวัดผลประเมินผล และสรุปผลประเมินผลเพื่อนำมาพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้

. สรุป ปรับปรุงและเผยแพร่  (Action) ค้นหาสาเหตุของปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงาน นำมาปรับปรุงพัฒนาต่อยอดกิจกรรม มีการประเมินความพึงพอใจ และเผยแพร่ผลงาน

หลัก ๓ อ.

วิธีการดำเนินการ

๑. สอนให้“เอ๊ะ”

กำหนดตัวชี้วัดทักษะโดยเน้นทักษะการคิด กระตุ้นให้นักเรียนเกิดความสนใจในการเรียนรู้ดนตรีไทย และนาฏศิลป์ไทย เห็นคุณค่าความสำคัญของศิลปวัฒนธรรมไทย

 

๒. ทำให้ “อ๋อ”

จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยให้กระบวนการ Active Learning เน้นให้ผู้เรียนได้เรียนตามความถนัดและความสนใจ ได้ลงมือปฏิบัติจริง โดยมีขั้นตอนวิธีการสอน ๕ ขั้น ดังนี้

  ขั้นที่ ๑ ขั้นเตรียมความพร้อม (Warm up) ในขั้นการจัดการเรียนรู้ครูสร้างความสนใจให้กับนักเรียน สร้างความรู้สึกเชิงบวก สนุกสนานน่าสนใจ เพื่อให้สมองเกิดการตื่นตัวพร้อมเรียนรู้

  ขั้นที่ ๒ ขั้นเรียนรู้ (Learning Stage) นักเรียนได้เรียนรู้เนื้อหาทางด้านความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ดีต่อการเรียนดนตรีไทย และนาฏศิลป์ไทย 

  ขั้นที่ ๓ ขั้นลงมือปฏิบัติ (Learning Practice) นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติเครื่องดนตรี และนาฏศิลป์ไทยตามความสนใจ  โดยขณะเรียนครูเน้นให้นักเรียนฝึกซ้ำย้ำทวน และสามารถแก้ปัญหา ต่อยอดองค์ความรู้ที่มีอยู่เดิมได้

  ขั้นที่ ๔ ขั้นสรุปความรู้ (Conclusion) นักเรียนสามารถสรุปความรู้ประโยชน์ของการสืบทอดอนุรักษ์ดนตรีไทย และนาฏศิลป์ไทย โดยสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้และแสดงผลงานดนตรีไทยประกอบการแสดงนาฏศิลป์ได้

  ขั้นที่ ๕ ขั้นประยุกต์ใช้ (Application) นักเรียนสามารถจัดการแสดงเผยแพร่ผลงานดนตรีไทย และสามารถต่อยอดสร้างสรรค์ผลงานบูรณาการกับวิชาอื่นๆ และสามารถปรับปรุงพัฒนาผลงานของตนเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

๓. เพื่อให้ “โอเค” 

นักเรียนสามารถแสดงศักยภาพทางด้านศิลปะการแสดงได้อย่างมีความสุข และเห็นความสำคัญของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของไทย  โดยครูมีการกำกับติดตาม วัดผลและประเมินผลหลังกิจกรรม


ผลจากการปฏิบัติ

จากผลดำเนินงานโครงการส่งเสริมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมดนตรีไทย คิดเป็นร้อยละ ๙๒ แปรผลในระดับ ยอดเยี่ยม โดยโครงการประกอบด้วยกิจกรรมดนตรีไทย ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ กิจกรรมดนตรีพื้นบ้านกลองยาว และกิจกรรมร่วมเผยแพร่ อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย  พบว่านักเรียนสามารถเล่น   ดนตรีไทยได้อย่างน้อยคนละ ๑ ชนิด เช่น ขลุ่ยเพียงออ อังกะลุง กลองยาว การขับร้องเป็นต้น ซึ่งนักเรียนสามารถจัดการแสดงเป็นบรรเลงรวมวงในงานต่าง ๆ ของโรงเรียนและนอกโรงเรียนได้ อีกทั่งได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และมีความตระหนักเห็นคุณค่า และอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมทางด้านดนตรีไทยได้ ซึ่งสามารถสรุปตามวัตถุประสงค์ได้ดังนี้

1.    ร้อยละ 92 ของนักเรียนที่บรรลุเป้าหมายการเรียนรู้หรือทักษะที่กำหนดไว้ในโครงการ

2.    ร้อยละ 92 ของนักเรียนสามารถนำความรู้และทักษะทางด้านดนตรีไทย และดนตรีพื้นบ้านมาใช้ในชีวิตประจำวันได้

3.    ร้อยละ 92 ของนักเรียนสามารถถ่ายทอดการแสดงผลงานทางด้านดนตรีไทยและดนตรีพื้นบ้านได้       อีกทั้งการแสดงบรรเลงรวมวง

4.     ร้อยละ 92 ของนักเรียนรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์บริหารจัดการเวลาได้ดีขึ้น

5.     ร้อยละ 92 นักเรียนมีความชื่นชมและเห็นคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมไทย

6. ร้อยละ 92 ของผู้บริหาร ครู ผู้ปกครองและนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการแสดงความพึงพอใจในการเข้าร่วมกิจกรรมและมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมไทย(ดนตรีไทย)และประสบการณ์ที่ได้รับจากโครงการ


5.การเผยแพร่

1. นักเรียนได้แสดงทักษะการเล่นดนตรีไทยและนาฏศิลป์ไทยโดยนำดนตรีสากลเข้ามาประกอบในการแสดง ทั้งในและนอกโรงเรียน เช่น งานแข่งขันทักษะด้านดนตรีไทย งานเปิดกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียน การแสดงต้อนรับคณะผู้ตรวจเยี่ยมโรงเรียนคณะต่าง ๆ  งานนิทรรศการวิชาการเครือข่ายโรงเรียนที่ ๓๕ เขตลาดกระบัง  งานแห่เทียนเข้าพรรษาของวัดปลูกศรัทธา  และงานบริการชุมชน ตามโอกาสต่างๆ เป็นต้น

    2. มีการจัดประชาสัมพันธ์การแสดงของนักเรียน ผ่านทาง Website, Youtube, Line, Facebook (นาฏศิลป์-ดนตรีโรงเรียนวัดปลูกศรัทธา) โดยอัพเดทข้อมูลกิจกรรมให้เป็นปัจจุบันอย่างสม่ำเสมอ

6.ปัจจัยความสำเร็จ

          1. ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครูบุคลากร และคณะกรรมการสถานศึกษา ร่วมกันกำหนดนโยบายส่งเสริมสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ สื่อการสอน และดำเนินโครงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทย ของโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ ติดต่อสัมพันธ์กับหน่วยงานภายนอกในการนำเสนอผลงานการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย ของโรงเรียนให้เป็นที่ประจักษ์สร้างความเชื่อมั่นให้กับบุคคลภายนอก

          2. ผู้ปกครองให้ความร่วมมือในการกระตุ้นและส่งเสริมนักเรียนในการฝึกซ้อมดนตรีไทย นาฏศิลป์ไทยและดนตรีสากล ในช่วงหลังเลิกเรียน รวมทั้งสนับสนุนทุนทรัพย์และอุปกรณ์ต่างๆ ตามความเหมาะสม

          3. โรงเรียนมีบุคลากรที่มีประสิทธิภาพในการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านดนตรีไทย นาฏศิลป์ไทย ดนตรีสากล และมีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง

          4. ชุมชน ร่วมจัดหาเวทีการแสดงโอกาสและประสบการณ์ให้กับนักเรียน เช่น งานแสดงกลองยาว                ในขบวนแห่ต่างๆ งานแสดงดนตรีไทยในงานมงคล และอวมงคล เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนใช้เวลาว่างให้                      เป็นประโยชน์ และสามารถสร้างรายได้เสริมให้แก่นักเรียนและครอบครัว โดยบุคคลในชุมชนมีการเรียกใช้บริการชมรมดนตรี-นาฏศิลป์ไทย ของโรงเรียนอยู่เสมอ

   

ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ

1. การส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องทักษะทางด้านดนตรีไทยและดนตรีพื้นบ้าน อุปสรรคที่พบนักเรียนบางกลุ่มไม่มีความรู้พื้นฐานด้านการปฏิบัติดนตรีไทยและดนตรีพื้นบ้าน ควรจัดการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติจริง ปฏิบัติซ้ำๆ เพื่อให้เกิดทักษะการเรียนรู้

2. เนื่องด้วยนักเรียนมีเรียนในประจำชั้นเป็นหลัก ทำให้การเรียนรู้ของนักเรียนในด้านดนตรีไทยไม่ต่อเนื่องทำให้การฝึกซ้อมและการต่อเพลงมีความล่าช้า ควนจัดการฝึกซ้อมนอกเวลาเรียนเช่น ช่วงพักกลางวัน และช่วงเวลาหลังเลิกเรียน เพื่อให้การพัฒนาเป็นไปอย่างต่อเนื่อง