สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร
Department of Education
นวัตกรรมการอ่าน การเขียนรูปแบบ KLA MODEL
โรงเรียนคลองทรงกระเทียม
กระบวนการพัฒนา

1.      โรงเรียนจัดประชุม/ชี้แจงแนวทางการจัดกิจกรรมการพัฒนาการอ่านออก เขียนได้ของนักเรียนโดยใช้

กระบวนการเรียนรู้แบบ KLA  Model  แก่ ครู บุคลากร และผู้ปกครอง

    2.   ประชุม/มอบหมายหน้าที่ในการดำเนินกิจกรรมการพัฒนาการอ่านออก เขียนได้ของนักเรียนโดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบ KLA  Model เพื่อแก้ไขปัญหา พัฒนา และส่งเสริม การอ่าน เขียนของนักเรียน

3.   โรงเรียนจัดอบรมให้ความรู้ เกี่ยวกับหลักการสอนอ่าน เขียนภาษาไทย เพื่อให้ครูเกิดความรู้ความเข้าใจที่ตรงกัน และสามารถนำไปปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน

4.   โรงเรียนดำเนินการคัดกรองนักเรียน โดยใช้แบบทดสอบการอ่านของสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร

5.   ออกแบบนวัตกรรมที่ใช้พัฒนาการอ่านออก เขียนได้ ของนักเรียนโดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบ KLA Model  ที่ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ดังนี้

      5.1 กลุ่มอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ จัดกิจกรรมพัฒนาการอ่าน เขียน โดยการใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน เขียนสะกดคำแจกลูกคำ

      5.2 กลุ่มอ่านไม่คล่อง เขียนไม่คล่อง จัดกิจกรรมพัฒนาการอ่าน เขียน โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน

      5.3 กลุ่มอ่านคล่อง เขียนคล่อง จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน “กิจกรรมสนุกอ่าน สนุกเขียน

เรียนเพลิน” ประกอบด้วย

          5.3.1 กิจกรรมภาษาไทยวันละคำ

5.3.2  กิจกรรมสร้างลูกรักเป็นนักอ่าน 

5.3.3 กิจกรรมพี่อ่านให้น้องฟัง 

5.3.4  กิจกรรมเล่มโปรด

5.3.5 กิจกรรมกำหนดคำทำให้เป็นเรื่อง

5.3.6 กิจกรรมอ่านเป็น จับประเด็นได้  

5.3.7 กิจกรรมยอดรักนักอ่าน

    6. ผู้บริหารสถานศึกษาดำเนินการควบคุม กำกับและติดตามอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยจัดให้มีการวัดและประเมินผลกิจกรรม เดือนละ 1 ครั้ง เพื่อจัดกลุ่มนักเรียนใหม่ 

- สรุปผลการประเมินระยะที่ 1  เดือน กันยายน 2567 จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ พัฒนา

กระบวนการ และออกแบบกิจกรรมเพิ่มเติม (กรณีผลการประเมินไม่บรรลุวัตถุประสงค์)

- สรุปผลการประเมินระยะที่ 2  เดือน มกราคม 2568

7. สรุปผลการดำเนินงานและจัดทำรายงาน

8. ถอดบทเรียนการดำเนินงาน


ผลจากการปฏิบัติ

การประเมินระยะที่ 1 จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ พัฒนาการบวนการ และออกแบบกิจกรรม จากการใช้นวัตกรรมการพัฒนาการอ่าน เขียน โดยใช้กระบวนการเรียนรู้รูปแบบ KLA MODEL พบว่า 1) นักเรียนกลุ่มอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ จำนวน 75 คน ผ่านการประเมินการอ่านโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านแจกลูกคำชุดที่ 11 -24 ทุกคน คิดเป็นร้อยละ 100 2)นักเรียนกลุ่มอ่านไม่คล่อง เขียนไม่คล่อง จำนวน 86 คน ผ่านการประเมินการอ่านโดยใช้แบบฝึกทักษาะการอ่านชุดที่ 1-8 ทุกคน คิดเป็นร้อยละ 100 3) กลุ่มอ่านคล่อง เขียนคล่อง ผ่านการประเมินการอ่านผ่านกิจกรรม“กิจกรรมสนุกอ่าน สนุกเขียน เรียนเพลิน” จำนวน 330 คน คิดเป็นร้อยละ 97.23

          การประเมินระยะที่ 2 จากการใช้นวัตกรรมการพัฒนาการอ่านเขียนโดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบ KLA MODEL สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 และมีการการประเมินระยะที่ 2 พบว่า 1) นักเรียนกลุ่มอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ จำนวน 74 คน (ย้ายโรงเรียน 1 คน) ผ่านการประเมินการอ่านโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านแจกลูกคำชุดที่ 12-24 ทุกคน คิดเป็นร้อยละ 100 2) นักเรียนกลุ่มอ่านไม่คล่อง เขียนไม่คล่อง จำนวน 86 คน ผ่านการประเมินการอ่านโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านชุดที่ 9-15 ทุกคน คิดเป็นร้อยละ 100 3) กลุ่มอ่านคล่อง เขียนคล่อง ผ่านการประเมินการอ่านผ่านกิจกรรม“กิจกรรมสนุกอ่าน สนุกเขียน เรียนเพลิน” จำนวน 330คน คิดเป็นร้อยละ 98.24

การประเมินระยะที่ 3     โรงเรียนมีผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน (NT) ชั้นประถมศึกษา

ปีที่ 3 ปีการศึกษา 2567 ด้านภาษาไทย มีค่าคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 75.97 ซึ่งสูงกว่าสังกัด และสูงกว่าระดับประเทศ และมีผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (RT) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2567 พบว่า ด้านการอ่านออกเสียง มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 83.27 และด้านการอ่านรู้เรื่อง มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 86.32 ซึ่งสูงกว่าสังกัด และสูงกว่าระดับประเทศ


เอกสารเพิ่มเติม :[ดาวน์โหลดเอกสาร]