๖.๑
ปรึกษาแนวทางการดำเนินงานกับผู้บริหารสถานศึกษาและเสนอขออนุมัติกิจกรรม
๖.๒ ผู้บริหารและคณะครูช่วยกันติดต่อประสานงานหน่วยงานเอกชนเพื่อของบประมาณและวัสดุอุปกรณ์ ตลอดจนนักวิชาการมาให้คำแนะนำ
ความรู้ด้านการเกษตรต่าง ๆ และการดำเนินงานประชุมคณะกรรมการเพื่อร่วมกันวางแนวทางในการปฏิบัติงาน
๖.๓ ชี้แจงทำความเข้าใจกันระหว่าง
นักเรียน ผู้ปกครอง และครูงานเกษตร
๖.๔ นักเรียน-ครู ร่วมกันวางแผนงานและพิจารณาเลือกกิจกรรม
๖.๕ เตรียมเรือนเพาะชำ
กะบะชำและวัสดุต่าง ๆ ที่ใช้ปักชำและเพาะเมล็ดพืช เตรียมแปลงปลูกหรือภาชนะปลูก
เช่น กระถาง ถุงพลาสติก ปุ๋ย เพื่อใช้ปลูกพืชต่าง ๆ
เตรียมเครื่องมือเกษตรเกี่ยวกับพืชและดิน
๖.๖ ดำเนินการเก็บเศษพืชต่างๆ
เศษอาหารที่เหลือทิ้งเปล่าไว้ทำปุ๋ยหมัก ทำปุ๋ยชีวภาพ ปลูกพืชตระกูลถั่ว
เพื่อทำปุ๋ยพืชสด
๖.๗ นักเรียน ครูเกษตร ร่วมปฏิบัติงานและดูแลบำรุงรักษาตามกิจกรรม ได้แก่สวนพฤกษศาสตร์และการปลูกไม้ดอกไม้ประดับ การปลูกผักสวนครัวในแปลง การปลูกผักสวนครัวในภาชนะ การทำปุ๋ยอินทรีย์และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (คูคลองบางเชือกหนัง) จนประสบความสำเร็จ
๖.๘ เขียนป้ายชื่อกิจกรรมต่าง
ๆ ป้ายชื่อพันธุ์ไม้และการขยายพันธุ์
นำไปปักประจำพืชชนิดต่าง ๆ
๖.๙ เขียนรายงานการสรุปผลเสนอต่อผู้อำนวยการสถานศึกษา
๑. นักเรียนโรงเรียนบางเชือกหนัง(พูนบำเพ็ญอนุสรณ์) ร้อยละ ๘๐ ได้รับประสบการณ์ตรง
ในการทำเกษตรผสมผสานตามแนวพระราชดำริแบบเศรษฐกิจพอเพียง
๒. นักเรียนได้รับความรู้จากการเพาะปลูก ผักสวนครัว การอนุรักษ์
สิ่งแวดล้อมและสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
๓. นักเรียนสามารถนำผลผลิตจากการเพาะปลูก
ผักสวนครัว
การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจำหน่ายให้โครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนและบุคคลทั่วไป
ใช้เป็นทุนหมุน เวียนและทุนการศึกษาต่อไป