๑. ขั้นวางแผน (Plan)
-สร้างความตระหนักในการร่วมมือกันพัฒนาผู้เรียนอย่างเป็นระบบด้วยความยั่งยืน
พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการนำรูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ CCE
มาใช้เป็นกระบวนการพัฒนา
-วางแผนกำหนดนโยบายในคณะกรรมการฝ่ายวิชาการ
คณะครูและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
-จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาครู เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญตามแนวทาง CCE และการนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยผู้บริหาร วิทยากรจากมูลนิธิชินโสภณพานิชและครูแกนนำ โดยมีกรอบหลักสูตรและหัวเรื่องที่จะใช้พัฒนาแต่ละด้านตามความเหมาะสมของระดับชั้นเรียน
-
การศึกษาดูงานโรงเรียนต้นแบบ ห้องเรียนต้นแบบ เพื่อเรียนรู้
เทคนิคและวิธีการบริหารจัดการตามแนวทางCCE แล้วนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม
โดยจะเห็นบรรยากาศการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญในห้องเรียนจริง ๆ
ซึ่งจะทำให้สามารถนำเทคนิค วิธีการต่าง ๆ มาต่อยอดใช้ในการเรียนรู้ของตนเองได้ง่ายขึ้น
-จัดประชุมทำคำสั่งมอบหมายงานแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ
แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานปฏิบัติหน้าที่และรับผิดชอบฝ่ายต่าง ๆ
พร้อมทั้งประชุมวางแนวทางการพัฒนาผู้เรียน ตามแนวทาง CCE คือการจัดกระบวนการเรียนการสอนพัฒนาผู้เรียนโดยใช้นวัตกรรมการจัดการเรียนการสอนแบบ
Child Centred Education (CCE) โดยประชุมคณะครู ครูพี่เลี้ยง และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อศึกษา
วิเคราะห์หลักสูตรสถานศึกษา หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย เกณฑ์และกรอบมาตรฐานการศึกษา
และผลการจัดการเรียนการสอนในปีการศึกษาที่ผ่านมา
-คณะครูและครูพี่เลี้ยงศึกษารูปแบบ
วิธีการจัดการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการ CCE ซึ่งประกอบด้วย จุดเน้น ๔ ด้าน คือ
ด้านสภาพแวดล้อม ด้านหลักสูตรและแผนการจัดการเรียนรู้ ด้านนักเรียน ด้านครู
2. ขั้นปฏิบัติการ (Do)
ดำเนินการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
คณะครูนำความรู้ที่ได้รับจากการอบรมเชิงปฏิบัติการมาปฏิบัติ
นำการจัดการเรียนการสอน
Child
Centred Education (CCE) ลงสู่ผู้เรียนทั้งโรงเรียนทั้งภายในและภายนอกห้องเรียน
ดังนี้
๒.๑
พัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม
ครูเตรียมความพร้อมของห้องเรียนด้วยการนำความรู้จากการอบรมด้านสภาพแวดล้อม
เรื่อง สิ่งแวดบ้อมในห้องเรียน
และการจัดแสดงความรู้และผลงานของนักเรียนมาปฏิบัติจริง โดยครูออกแบบห้องเรียนของตนเอง
โดยวางแผนผังห้องเรียนและกำหนดการจัดวางสิ่งของที่เหมาะสม /สำรวจวัสดุ อุปกรณ์
และครุภัณฑ์ที่มีอยู่
แล้วคัดแยกสิ่งที่ควรเก็บไว้และสิ่งที่ควรนำออกหรือจัดทำเพิ่มขึ้น
แล้วดำเนินการจัดห้องตามแผนผังที่กำหนด ซึ่งเป็นการปรับห้องเรียนสภาพตามแนว CCE กิจกรรม Clean up day โดยมีแนวทางดังนี้
(1)
ห้องเรียนสะอาด ปลอดภัย
(2)
การจัดมุมการเรียนรู้หลากหลาย เอื้อต่อการเรียนรู้ โดยจัดเป็นระเบียบมีป้าย
ชื่อมุมกำกับชัดเจน ได้แก่
-
มุมสะอาด เป็นมุมที่ใช้เก็บไม้กวาด ที่โกยผง ถังขยะ ที่นักเรียนเข้าใช้ได้ง่าย
ควรห่างจากมุมสุขภาพ
-
มุมอุปกรณ์ เป็นมุมที่ครูจัดเก็บอุปกรณ์การเรียนรู้ ซึ่งนักเรียนสามารถนําไปใช้
ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น กาว กรรไกร สี ปากกา เป็นต้น
-
มุมครู เป็นพื้นที่ส่วนตัวให้ครูได้ทำงานพร้อมกับมีเวลาอยู่ในห้องเรียนกับนักเรียน
-
มุมแสดงความรู้และผลงานนักเรียน (Display)
เป็นมุมที่ครูหรือนักเรียนจัดไว้
สำหรับการแสดงความรู้ที่มีข้อมูลสอดคล้องกับการเรียนรู้ในช่วงนั้น
ควรอยู่ในระดับที่นักเรียนสามารถ มองเห็นได้ง่าย
เพื่อให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง และมีการแสดงผลงานของนักเรียนทุกคน เพื่อสร้าง
ความภาคภูมิใจให้นักเรียน
-
มุมการอ่านหรือมุมหนังสือ เป็นมุมส่งเสริมการอ่านหรือการค้นคว้าข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งควรจัดโต๊ะเล็ก ๆ มีชั้นวางหนังสือที่แข็งแรง ปลอดภัย หยิบได้ง่าย
และเป็นหนังสือที่เหมาะสมกับวัย ให้นักเรียนเลือกอ่าน
-
มุมส่งงาน เป็นมุมสำหรับนักเรียนส่งงานหรือการบ้าน ๆ หรือการบ้านที่ตรวจแล้วคืน
และสามารถใช้เป็นพื้นที่วางหนังสือหรือแบบฝึกหัดให้
-
มุมเสริมแรง (Star
Chart) เป็นมุมที่มีตารางสำหรับติดดาว
เป็นการเสริมแรงเมื่อนักเรียนตั้งใจเรียนหรือแสดงพฤติกรรมที่เหมาะสม
ช่วยสร้างแรงจูงใจ สร้างความ ภาคภูมิใจ และควบคุมพฤติกรรมนักเรียน
-
มุมสุขภาพ เป็นมุมสำหรับเก็บแปรงสีฟัน แก้วน้ำของนัก นักเรียนสามารถหยิบของ ได้ง่าย
-
มุมการเรียนรู้ เป็นมุมทำกิจกรรม เช่น เกมการศึกษา
ของเล่นที่เอื้อต่อพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของนักเรียนอาจมีตะกร้าเพื่อช่วยให้เก็บของเป็นระเบียบ
และควรหมั่นทำความสะอาด สิ่งของอยู่เสมอ
-
มุมหน่วยการเรียนรู้
เป็นมุมที่ครูจัดและตกแต่งพื้นที่ด้วยเนื้อหาที่กำลังสอนในช่วงเวลานั้น
หรือสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้
-
มุมรวมหรือมุมพรม เป็นมุมสำหรับให้นักเรียนรวมกันและทํากิจกรรมการสอน ซึ่งควรเป็นพื้นที่หน้าห้อง ช่วยให้นักเรียนมีสมาธิในการเรียน
-
มุมกระเป๋า เป็นพื้นที่วางกระเป๋าของนักเรียน โดยครูสามารถติดเลขหรือ
สัญลักษณ์ของนักเรียนแต่ละคน เพื่อความเป็นระเบียบ
เป็นการนํากระเป๋าให้ห่างจากตัวนักเรียน เพื่อให้นักเรียนมีสมาธิในการทำกิจกรรมการเรียนรู้
-
มุมรองเท้า เป็นมุมวางรองเท้าของนักเรียน ซึ่งควรจัดไว้ด้านนอกห้องเรียน
โดยครูสามารถติดเลขหรือสัญลักษณ์ประจําตัวนักเรียนแต่ละคน อาจใช้เทปกาวตีกรอบ
เพื่อให้นักเรียน วางรองเท้าได้อย่างถูกวิธีและเป็นระเบียบ ช่วยฝึกวินัยของนักเรียน
(3)
การจัดพื้นที่เพียงพอต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
(4)
การสร้างบรรยากาศในห้องเรียนให้กระตุ้นการเรียนรู้ มีสีสันสวยงาม สร้างสรรค์
(5)
การนําธรรมชาติเข้าสู่ห้องเรียน เพื่อสร้างความสดชื่น และเป็นแหล่งเรียนรู้ ที่
สร้างสรรค์ให้แก่นักเรียน
(6)
การจัดป้ายแสดงความรู้และผลงานนักเรียนทุกคน (Display)
ที่เป็นปัจจุบัน สม่ำเสมอ
และนักเรียนมีส่วนร่วม
(7)
การจัดป้ายแสดงความรู้ที่ให้ทั้งความรู้ และทำกิจกรรมบนป้ายได้ ( Interactive
Board)
-การจัดวางวัสดุได้จัดวัสดุ
อุปกรณ์ สื่อ เครื่องเล่น ครุภัณฑ์ ให้เหมาะสมสอดคล้องกับวัยและพัฒนาการ
เพื่อให้เด็กสามารถใช้หรือทำกิจกรรมได้สะดวกด้วยตนเอง
-วัสดุ อุปกรณ์ สื่อ เครื่องเล่น
ครุภัณฑ์
ควรให้มีขนาดเหมาะสมกับเด็ก
-การจัดพื้นที่ในห้องเรียนให้เหมาะสม
เลือกที่ตั้งครุภัณฑ์ อุปกรณ์ต่างๆ และมุมประสบการณ์โดยคำนึงถึงทิศทางลมเหมาะสม แสงสว่างเพียงพอต่อการทำกิจกรรมไม่รบกวนสายตาเด็กขณะปฏิบัติกิจกรรมสร้างบรรยากาศให้ร่มรื่นทุกจุดของห้องควรให้มองเห็นได้โดยรอบ
-
จัดสภาพแวดล้อมในห้องให้มีความสะอาดปลอดภัยโดยตรวจความเรียบร้อยของวัสดุ อุปกรณ์
สื่อและเครื่องเล่นหากชำรุดต้องรีบซ่อมแซมโดยเร็วกำหนดขอบเขตของมุมประสบการณ์ให้เด็กรู้ดูแลบริเวณทั่วไปให้ปลอดภัยจากสัตว์
แมลง พืช และสารเคมีที่มีพิษครุภัณฑ์ โต๊ะ เก้าอี้
ไม่ควรเป็นมุมแหลมที่เป็นอันตราย
-จัดมุมเสริมทักษะพัฒนาการเรียนรู้ที่หลากหลายเช่น มุมส่งเสริมการอ่าน
มุมเกมการศึกษา มุมศิลปะ มุมส่งงาน มุมสะอาด มุมอุปกรณ์
-
จัดสภาพแวดล้อมให้สวยงามเหมาะกับการเรียนรู้
-จัดวางอุปกรณ์ต่าง
ๆ ให้สะดวกต่อการหยิบใช้และจัดเก็บเป็นระเบียบมีการจัดมุมกิจกรรมต่าง ๆ
พร้อมอุปกรณ์ให้พร้อมใช้และเพียงพอต่อจำนวนผู้เรียน
-
จัดบอร์ดบริเวณทั้งในและห้องเรียนให้มีความเป็นปัจจุบัน ทันสมัย แปลกใหม่อยู่เสมอ
-
จัดบอร์ดผลงานนักเรียนให้มีการปรับเปลี่ยนหมุนเวียนนักเรียนได้นำผลงานขึ้นทุกคน
๒.๒
พัฒนาด้านหลักสูตร
-วิเคราะห์หลักสูตรเพื่อเชื่อมโยงกับผลการวิเคราะห์ผู้เรียนที่จัดกลุ่มผู้เรียนตามความสามารถ
มีการกำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนและบูรณาการเนื้อหาระหว่างกลุ่มสาระหรือรายวิชา
-ปรับเนื้อหาให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียนกำหนดผลการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนบรรลุตามจุดหมายของหลักสูตร
ตัวชี้วัดรายวิชาต้องครอบคลุมทั้งในด้านความรู้ ทักษะ และเจตคติ
-กำหนดแนวทางการจัดการเรียนการสอน
เทคนิคการสอน การเรียนรู้ที่หลากหลาย เน้นความแตกต่างระหว่างบุคคล
จัดกิจกรรมบูรณาการระหว่างสาระวิชาต่าง ๆ เชื่อมโยงเนื้อหากับชีวิตจริง
-จัดกิจกรรมส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง
กระตุ้นความคิด มีกระบวนการการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เป็นระบบ
-จัดกิจกรรมให้มีความยืดหยุ่นเปิดกว้างสำหรับนักเรียน
เน้นความแตกต่างระหว่างบุคล เช่น การทำใบงานที่แตกต่างกัน เป็นต้น
-มีวิธีการวัดผลและประเมินผลให้เป็นไปตามสภาพจริง
๒.๓ พัฒนาด้านครู
-ครูศึกษาข้อมูลพื้นฐานของผู้เรียนเป็นรายบุคคลครูมีการศึกษาข้อมูลของนักเรียน
วิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคลโดยใช้แบบสำรวจ แบบคัดกรอง
แบบสัมภาษณ์เพื่อให้ทราบข้อมูลพื้นฐานของนักเรียนแต่ละคน
และเข้าใจถึงพัฒนาการของนักเรียน โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล และพื้นฐานความต้องการของนักเรียนตามศักยภาพและความสามารถของนักเรียน
-ครูเปลี่ยนมุมมอง
ปรับทัศนคติในการคิด เข้าใจพัฒนาการของผู้เรียน ความแตกต่างแต่ละบุคคล
-ครูคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลมีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในเชิงลึกเน้นผู้เรียนเป็นรายบุคคล
มีการทำใบงาน แบบฝึกให้เหมาะกับผู้เรียน
-ครูสนับสนุนผู้เรียนตามศักยภาพมีสัมพันธภาพที่ดีต่อนักเรียนทั้งทางกายและจิตใจ
ให้เกียรติ
รับฟังเป็นที่ปรึกษา ช่วยแก้ปัญหาและชื่นชมเพื่อให้เกิดสัมพันธภาพที่ดี
ทำให้นักเรียนมีความสุข มีความเชื่อมั่น กล้าคิด กล้าแสดงออก
-ครูมีสัมพันธภาพที่ดีต่อเด็กจัดกิจกรรมและสื่อการสอนที่สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้
มีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายให้นักเรียนได้เรียนอย่างมีความสุขสอดคล้องกับ VAK และจุดประสงค์การเรียนรู้
-ครูปรับเปลี่ยนวิธีการสอนจากการลงโทษ
เป็นการให้การเสริมแรงและสร้างแรงจูงใจแก่ผู้เรียนมีการเสริมแรงทั้งด้วยวาจา
และการปฏิบัติ เช่น การให้ดาว การกล่าวชม
การนำผลงานของนักเรียนขึ้นจัดบอร์ดเพื่อสร้างความภาคภูมิใจให้ผู้เรียน
-ครูสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้
มีการจัดมุมต่างๆ ทั้งในและนอกให้เรียนให้เหมาะสมกับ การเรียนรู้ เช่น มุมการอ่าน มุมอุปกรณ์
มุมความรู้ มุมส่งงาน ฯลฯ
-ครูเป็นที่ปรึกษาและช่วยแก้ปัญหาครูปฏิบัติตนเป็นผู้ที่สร้างความไว้วางใจให้ผู้เรียน
ไม่ดูห่างเหิน
มีความเป็นกันเอง ผู้เรียนเกิดความสบายใจกล้าที่จะปรึกษา ครูมีการประสานงานกับผู้ปกครองในการร่วมพัฒนาผู้เรียนอย่างใกล้ชิดและเป็นกันเอง
-ครูมีการจัดการ
วางแผน ในการจักกิจกรรมการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ ดังนี้
(๑)
ครูศึกษาเรื่องมาตรฐานการศึกษาและมีการวิเคราะห์หลักสูตรให้เข้าใจ แล้วนำมาพัฒนาหลักสูตรรายวิชาที่ตนสอน
(๒)
ครูวางแผนการสอน ว่าควรจะสอนอย่างไร
รวมทั้งจะต้องสามารถกำหนดสิ่งที่จะบรรลุผลหรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นหรือพฤติกรรมของนักเรียนที่จะเกิดขึ้นหลังจากได้รับการศึกษา
โดยเน้นการจัดกิจกรรมและการใช้สื่อที่ส่งเสริมการเรียนรู้
(๓)
ครูนำกระบวนการวิจัยเข้ามาใช้ในการสอนของครู
และการเรียนของนักเรียนเพื่อสร้างสรรค์ความรู้ควบคู่กับการเรียนรู้
(๔)
ครูดำเนินการสอน โดยทำงานร่วมกับผู้เรียนหมายความว่า
ต้องลดบทบาทการบอกของครูมาเป็นการทำงานร่วมกับผู้เรียน โดยอำนวยความสะดวกให้ผู้เรียนได้มีบทบาทในการเรียนมากขึ้น
(๕)
ครูมีการวัดประเมินผลการสอนว่าสิ่งที่ครูสอนไปนั้นบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้มากน้อยเพียงใด
โดยวัดจากผลการเรียนรู้ของผู้เรียน พิจารณาเป็นรายบุคคลและรายชั้นเรียน
(๖) ครูวิเคราะห์ผลจากการสอน และผู้เรียน
เพื่อนำมาปรับปรุงการเรียนการสอนในต่อไป
(๗)
ครูบันทึกสรุปผลการสอน ว่าในคาบหรือหน่วยนั้นมีความสำเร็จ
บรรลุตามเป้าหมายมากน้อยเพียงใด มีปัญหาและอุปสรรคที่ต้องแก้ไขอย่างไร
มีคำแนะนำเพื่อจะนำไปปรับปรุงต่อไปอย่างไร โดยบันทึกทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้เป็นหนึ่งหน่วย
๒.๔
พัฒนาด้านผู้เรียน
-
นักเรียนมีความสุขในการเรียนเพิ่มมากขึ้น
- นักเรียนมีทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ
-
นักเรียนกล้าตัดสินใจ กล้าแสดงออกอย่างสร้างสรรค์
-
นักเรียนมีสัมพันธภาพที่ดีกับกลุ่ม
-
นักเรียนได้รับการพัฒนาตามศักยภาพและความต้องการ
- ปรับแนวคิดทัศนคติของผู้เรียนให้เห็นความสำคัญของการตั้งใจเรียน มีการทำข้อตกลง เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงออกถึงแนวคิดของตนเอง
3. ขั้นตรวจสอบ (Check) สรุปผลการจัดการเรียนการสอน
เพื่อให้ครูมีการดำเนินการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางCCE ได้อย่างมั่นใจ และมีความต่อเนื่อง เพื่อให้ครูค้นพบ จุดเด่น
จุดที่ควรปรับปรุงของตนเอง เพื่อพัฒนาต่อไป
จึงจัดให้มีระบบการนิเทศกระบวนการเรียนการสอนภายในแบบกัลยาณมิตรและมีการกำกับติดตาม
โดยผู้บริหาร คณะวิทยากรจากมูลนิธิชินโสภณพานิช คณะกรรมการโครงการนิเทศ
คณะกรรมการดำเนินงานฝ่ายประเมินผล
เพื่อให้เห็นพัฒนาการของผู้เรียนและบุคลากรในโรงเรียน โดยวิธีการสังเกต บันทึกผล
ประเมินผล พฤติกรรมของผู้เรียนในโรงเรียนในขณะทำกิจกรรมต่างๆ
และสภาพแวดล้อมในของโรงเรียน อย่างน้อยคนละ ๓ ครั้ง
ต่อเนื่องตลอดปีการศึกษา โดยมีประเด็นในการนิเทศดังนี้
-การจัดการชั้นเรียนและสัมพันธภาพเชิงบวก
-บรรยากาศในห้องเรียน
-กิจกรรมและใบงานที่คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล
ภายหลังการนิเทศจะเปิดโอกาสให้ครูได้วิเคราะห์และประเมินตนเอง
และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ผู้บริหาร
คณะวิทยากรให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม
เมื่อสิ้นสุดการเรียนการสอนในแต่ละภาคเรียน ครูจะดำเนินการสรุปผลการประเมินพัฒนาการเด็กปฐมวัยและผลการเรียนของนักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ภาคเรียนละ 1 ครั้ง พร้อมทั้งนำผลการประเมินรายงานให้ผู้ปกครองนักเรียนรับทราบ และนำผลการประเมินไปปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนและพัฒนานักเรียนต่อไป
4. ขั้นปรับปรุง และขยายผล (Action)
ปรับปรุงกิจกรรมการเรียนการสอน
-ผู้บริหาร
คณะครู วิทยากร สรุปผลการจัดการเรียนการสอน
นำผลการจัดการเรียนการสอนและนำผลการประเมินพัฒนาการของนักเรียนมาปรับปรุงและพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนในปีการศึกษาต่อไป
?โรงเรียนมีรูปแบบและแนวทางการจัดการเรียนการสอนที่เป็นระบบ
ครูทุกคนสามารถปฏิบัติได้เป็นอย่างดี สภาพแวดล้อมของโรงเรียนมีการพัฒนาทั้งภายในและภายนอกห้องเรียนเพื่อให้สอดรับการแนวทางของ
CCE เพื่อส่งเสริมและเอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างเหมาะสม
มีความเป็นระเบียบ สะอาด สวยงาม ปลอดภัย สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า
และมีความปลอดภัยเป็นที่ยอมรับของหน่วยงานภายนอก และผู้ปกครองเกิดความพึงพอใจ
ครูได้พัฒนาจนมีรูปแบบการจัดการเรียนการสอน
ในแนวทางเดียวกันจนเป็นครูที่มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ และมีจิตวิญญาณความเป็นครู
สามารถบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวกได้เป็นอย่างดี
มีการสร้างโอกาสให้ผู้เรียนสามารถแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง
ครูและผู้เรียนสามารถที่จะเรียนรู้ร่วมกันอย่างเป็นความสุข เมื่อพบปัญหาในระหว่างการจัดการเรียนการสอน
ครูผู้สอนสามารถนำรูปแบบการวิจัยไปใช้ในการแก้ปัญหา ร่วมถึงการพัฒนานวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาต่าง
ๆ ซึ่งครูผู้สอนสามารถนำไปใช้ในการขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะให้สูงขึ้นได้
ทำให้มีขั้นตอนการพัฒนาที่เป็นระบบ
ครูที่ยังไม่ได้รับการเลื่อนวิทยฐานะสามารถใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติได้
ครูมีกำลังใจที่จะพัฒนาตนเองให้มีความรู้มากยิ่งขึ้น และไม่ย้ายไปต่างสังกัด
เกิดความภูมิใจและรักในองค์กรเพิ่มมากขึ้น ครูผู้สอนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
และมีการให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อนำมาใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ที่ยั่งยืน
นักเรียนมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น
เรียนรู้อย่างมีความสุข รู้รอบด้านทั้งทักษะวิชาการ วิชาการและทักษะชีวิต
ความเข้าใจในเนื้อหาของบทเรียน ได้ฝึกทักษะการกล้าแสดงออก
กล้าแสดงความคิดเห็น สรุปองค์ความรู้ นำเสนอผลงาน
สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ สามารถปฏิบัติตามกติกาของห้องเรียนได้เป็นอย่างดี
มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และสามารถทำงานร่วมกับคนอื่นได้เป็น อย่างดี