1. 1. ผู้บริหารประชุมครู เพื่อทบทวนยุทธศาสตร์ แผนปฏิบัติงานราชการ โครงการที่จะดำเนินการในปีการศึกษา 2562
2. 2. หัวหน้าโครงการทบทวนผลการดำเนินโครงการปีการศึกษา 2561 นำผลสำเร็จและข้อควรปรับปรุง ข้อมูลของนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษและข้อมูลครูในโครงการ มาวางแผนงานการดำเนินการปีการศึกษา 2562
3. 3. หัวหน้าโครงการนำแผนงานของโครงการนำเสนอต่อที่ประชุมผู้บริหารและครูบุคลากร
เพื่อชี้แจง การดำเนินการ
การมีส่วนรวม ความรับผิดชอบในโครงการ พร้อมกับรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ
4. 4. หัวหน้าโครงการจัดทำโครงการ
แต่งตั้งคณะครูและบุคลากรทุกคนเป็นกรรมการ เสนอต่อผู้บริหาร
เมื่ออนุมัติก็ดำเนินการตามแผนงาน
5. 5. หัวหน้าโครงการและกรรมการจัดทำแผนการศึกษาเฉพาะบุคคลและงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อใช้ในการจัดการศึกษาพิเศษให้นักเรียนที่มีความต้องการพิเศษสามารถเรียนร่วมกับนักเรียนปกติได้
6. 6. ประสานความร่วมมือกับครูแนะแนว
ครูประจำชั้น ในการคัดกรอง คัดแยกนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 ทุกคน
เพื่อดูแลสุขภาวะทางใจและส่งต่อนักเรียนที่มีปัญหาด้านสุขภาพทางร่างกายและสุขภาพจิต
7. 7. จากข้อ 6 ถ้าพบว่านักเรียนมีความเสี่ยงในการเป็นนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ
ก็จะประสานความร่วมมือกับผู้ปกครองและหน่วยงานทางการแพทย์ตามสิทธิการรักษาเข้ารับประเมินทางจิตวิทยา
เพื่อรับการรักษาและขอใบรับรองทางการแพทย์ เพื่อเข้าโครงการการศึกษาพิเศษ
8. 8. ในช่วงเดือนมิถุนายน
นักพัฒนาการจากสถาบันราชานุกูลประจำศูนย์สาธารณสุขที่ 30 วัดเจ้าอาม
จะมาทำการประเมินพัฒนาการให้เด็กอนุบาลปีที่ 1 – 2 เพื่อเป็นข้อมูลให้ครูประจำชั้นและผู้ปกครองเสริมพัฒนาการให้กับเด็กที่มีพัฒนาการล่าช้า
9. 9. ในช่วงเดือนสิงหาคม -
กันยายน นักศึกษาปริญญาโท นักจิตวิทยาและจิตแพทย์ในสาขาจิตเวชเด็กและวัยรุ่นของมหาวิทยาลัยมหิดล ศิริราชพยาบาลและโรงพยาบาลรามาธิบดี
จะมาทำโครงการสุขภาพจิตในโรงเรียนร่วมกับโครงการการศึกษาพิเศษของโรงเรียน
ในการจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้ในการส่งเสริมการเรียนและสุขภาพจิต
การปรับพฤติกรรมให้แก่นักเรียน ครู บุคลากรและผู้ปกครอง
ร่วมกับโครงการการศึกษาพิเศษของโรงเรียนในการประเมินทางจิตวิทยา
การส่งต่อทางการแพทย์ การประชุมรายกรณี
10. 10. ครูประจำชั้นจัดทำรายงานผลการเรียนและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในปีการศึกษาหน้า
หัวหน้าโครงการนำข้อมูลสรุปรายงานการดำเนินการของโครงการต่อผู้บริหาร
1. จัดทำโครงการการศึกษาพิเศษที่มีแผนงานสามารถดำเนินการต่อเนื่อง
เพื่อดูแลนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ (กลุ่มเดิมที่เรียนอยู่)
ให้เรียนตามศักยภาพความสามารถของนักเรียนเป็นรายบุคคลได้อย่างเหมาะสมในปีการศึกษาใหม่
2. 2. สามารถส่งต่อนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เข้าเรียนในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ได้ทุกคน
3. สามารถคัดกรอง
คัดแยก และส่งต่อทางการแพทย์ นำนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษที่แฝงอยู่เข้ารับบริการในโครงการได้ร้อยละ
80ส่วนรายที่มีปัญหาไม่สามารถส่งต่อทางการแพทย์ได้ ก็ส่งต่อข้อมูลไปดำเนินการต่อในปีการศึกษาใหม่
4.
สามารถประสานความร่วมมือกับโครงการสุขภาพจิตของโรงเรียนของสาขาจิตเวชเด็กและวัยรุ่นของมหาวิทยาลัยมหิดล
ศิริราชพยาบาลและโรงพยาบาลรามาธิบดีดำเนินการดังนี้
-ดูแลรายกรณี 28
รายในด้านการปรับพฤติกรรม การส่งต่อทางการแพทย์
-จัดอบรมให้ความรู้ในเรื่อง พ่อแม่ยุคใหม่ ส่งเสริมลูกให้มี EF แก่ผู้ปกครองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 3
-จัดอบรมให้ความรู้ในเรื่อง ครูยุคใหม่
รู้เท่าทันสื่อออนไลน์ แก่ครูและบุคลากรของโรงเรียน
-จัดอบรมให้ความรู้ในเรื่อง
รู้เท่าทันสื่อออนไลน์ แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 – 6
-จัดกิจกรรมปรับพฤติกรรมเรื่อง
การลดพฤติกรรมการแกล้งกัน แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
5. นำผลงานของนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษไปแสดงในงานวิชาการของโรงเรียนเครือข่ายที่ 57 สำนักงานเขตบางกอกน้อย และสาธิตการประดิษฐ์ทำดอกไม้ลูกปัด
6. นักศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา และมหาวิทยาลัยธนบุรี มาศึกษาดูงานด้านการจัดการศึกษาพิเศษ